เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตภัยแล้งหลังจากเหลือน้ำแค่ร้อยละ 22 ด้าน ชป.8 ระบุอยู่ในช่วงต้องเฝ้าระวังการควบคุมปริมาณการใช้น้ำอย่างประหยัด
13 พ.ค.60 นายชิตชนก สมประเสริฐ ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา (ชป.8) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนทั้ง 5 แห่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ขณะนี้ก็ยังต้องอยู่ในการเฝ้าระวังและควบคุมปริมาณการใช้น้ำอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว ซึ่งเป็นเขื่อนหลักที่ต้องใช้อุปโภคบริโภคในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ (อ.เมืองนครราชสีมา, อ.สีคิ้ว, อ.ขามทะเลสอ และ อ.สูงเนิน) ขณะนี้มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ในเขื่อนเพียง 71 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 22 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 314 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเมื่อวานนี้ (12 พ.ค. 60) มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเพียง 2,500 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น แต่ต้องเปิดประตูระบายน้ำ สำหรับให้ประชาชนใช้อุปโภคบริโภคและหล่อเลี้ยงระบบนิเวศน์ถึง 346,000 ลูกบาศก์เมตร ดังนั้น จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันประหยัดน้ำให้มากในช่วงนี้ เพื่อให้มีน้ำใช้ได้จนพ้นหน้าแล้งนี้
ส่วนที่เหลืออีก 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนมูลบน ปัจจุบันมีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 56 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 40 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนลำแชะ มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 76 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 275 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลือ 62 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 40 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 155 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนลำปลายมาศ มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 46 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุกักเก็บทั้งหมด 98 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งภาพรวมก็ยังถือว่าพอบริหารจัดการได้จนพ้นหน้าแล้งนี้