รวบกลางห้าง! “หนุ่มบูม-จิรัชพิสิษฐ์” นักแสดงร่วมกับพวกลวงเหยื่อชาวต่างชาติให้ร่วมลงทุนประกอบธุรกิจซื้อ-ขายบิตคอยน์ สูญเงินกว่า 797ล้านบาท ล่าสุด ตำรวจกองปราบปราม ออกหมายจับพี่ชาย และพี่สาวของหนุ่มบูมด้วย ฐานฟอกเงิน
ตำรวจกองปราบปรามควบคุมตัว นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม อายุ 27 ปี นักแสดงหนุ่มจากละครเรื่อง “ความรักครั้งสุดท้าย” ออกจากห้องควบคุมตัวผู้ต้องหากองปราบปราม เพื่อสอบปากคำ หลังร่วมกับพวก สมคบ และหลอกลวงชาวต่างชาติ ให้ร่วมลงทุนประกอบธุรกิจซื้อ-ขาย สกุลเงินดิจิตอล ในชื่อ dragon coin (DRG) โดยหลอกลวงให้ซื้อหุ้นของบริษัท เอ็กซ์เปย์ ซอฟท์แวร์ จำกัด ,NX Chain Inc. และหุ้นของบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด(มหาชน) เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงร่วมลงทุนไปด้วยการโอนเหรียญบิตคอย ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิตอลจำนวนหนึ่ง เข้าไปกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet) ซึ่งเป็นบัญชีของนายบูม และบัญชีของผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ เป็นเงิน กว่า 5 ล้าน 5 แสนเหรียญ คิดเป็นเงินบาทกว่า 797ล้านบาท แต่เมื่อถึงกำหนดรับส่วนแบ่ง จึงได้สอบถามผู้ต้องหา กลับบ่ายเบี่ยง จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก ผู้เสียหายจึงแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจกองปราบปราม ก่อนที่นายบูม จะถูกตำรวจจับกุมได้กลางห้างดังรัชโยธิน เมื่อวานนี้
ซึ่งในคดีนี้ นอกจากนายบูม แล้ว ยังมีผู้ร่วมขบวนการ ถูกออกหมายจับพร้อมกันรวม 7 คน ในฐานความผิด “ร่วมกันฟอกเงิน” ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ซึ่งในวันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวนายบูม ไปฝากขังต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีมูลค่าความเสียหายสูง หากได้รับการประกันตัวผู้ต้องหาอาจหลบหนี อีกทั้งยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัว
ด้าน พลตำรวจตรี ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการปราบปราม กล่าวว่า นายบูม ถือเป็น 1 ใน 3 พี่น้องในครอบครัวนี้ที่ถูกออกหมายจับ เนื่องจากการสอบสวนพบว่า นายบูม เปิดบัญชีรับโอนเงินจากผู้เสียหายชาวต่างชาติ แทนพี่ชาย ซึ่งเป็นตัวการหลักในขบวนการนี้ ซึ่งในวันนี้ เจ้าหน้าที่ออกหมายจับ 3 ราย รวมถึงนายปริญญา และสุพิชย์ฌา พี่ชายและพี่สาวของนายบูม ในข้อหาฟอกเงินด้วย โดยเงินที่ได้จากการหลอกร่วมลงทุนนี้กระจายไปในครอบครัวเครือข่ายหลายคน ซึ่งมีเงินหมุนเวียนออกนอกประเทศแล้วกว่า 30 ล้านบาท และยึดกลับมาได้ 200 ล้านบาท ทั้งนี้ ในส่วนของข้อหาฉ้อโกง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป
สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการนี้ หลอกนักลงทุนชาวต่างชาติร่วมลงทุนเหรียญบิตคอยน์ ให้มาลงทุนในประเทศไทย โดยนำเหรียญดังกล่าวไปเปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งสกุลเพื่อลงทุนต่อไปยังตลาดหลักทรัพย์ และนำไปใช้ในบ่อนการพนันที่มาเก๊า แต่ไม่มีการนำเงินไปลงทุนอย่างที่กล่าวอ้าง แต่นำเงินดังกล่าวไปหมุนเวียนใช้จ่ายภายในครอบครัว และใช้เงินซื้อที่ดิน ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินได้แล้วกว่า 200 ล้านบาท จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีบัญชีที่เกี่ยวข้องกว่า 40 บัญชี
จากการสอบสวน นายบูมยังคงให้การปฎิเสธ ไม่มีส่วนรู้เห็น โดยอ้างว่าบัญชีดังกล่างถูกพี่ชายนำไปใช้ ซึ่งจากการตรวจสอบนายปริญญา พี่ชายนายบูม เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนนางสาวสุพิชย์ฌา ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่แล้ว ทั้งนี้ จากข้อมูลทราบว่าขบวนการดังกล่าว มีตัวการ เป็นเจ้าพ่อตลาดหลักทรัพย์ชื่อดังอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า หลังนักลงทุนต่างชาติชาวฟินแลนด์ รู้ตัวว่าถูกฉ้อโกงจึงได้รับการติดต่อจากอดีตนายตำรวจนอกราชการชื่อดัง ติดต่อขอเข้าเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ขอส่วนแบ่ง 30 เปอร์เซ็นต์ ผู้เสียหายจึงกลัวจะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย จึงเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามแทน
สำหรับ หนุ่มบูม-จิรัชพิสิษฐ์ เป็นนักแสดงวัยรุ่นหนุ่มหล่อหน้าตี๋ วัย 27 ปี ที่อวดผลงานผ่านซีรีย์ดังมาแล้วหลายเรื่อง รู้จักตัวตนของดาราไฟแรงที่นับวันฝีมือการแสดงยิ่งเข้มข้น เตรียมขึ้นแท่นพระเอกรุ่นใหม่ของวงการบันเทิงไทย โดยหนุ่มบูม จิรัชพิสิษฐ์ จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ชอบการทำกิจกรรม โดยเฉพาะกีฬา ที่หนุ่มบูม จะหาเวลาไปเล่นประจำไม่ว่าจะเป็น บาสเกตบอล / ฟุตบอล / หรือแบดมินตัน ส่วนผลงานการแสดงของ บูม-จิรัชพิสิษฐ์ ได้แจ้งเกิดในบทของ “หมอนัท” จากซีรีย์ “สงครามแย่งผู้ To be continued ตอนลงเอย” ก่อนปรับลุคให้ดูแบดบอยขยี้ใจสาวๆ กับบท “แทนกาย” จาก “Bad Romance The Series”