ศาลจังหวัดพัทยา สั่งคุ้มครองชั่วคราวให้กรมศุลกากรปล่อยรถเมล์เอ็นจีวี 99 คัน ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ เเละออกหนังสือรับรองการจดทะเบียนรถยนต์แต่ละคัน ด้าน ผอ.ขสมก.เตรียมหารือกับบอร์ด
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 นายชนิด ศุทธยาลัย ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท ซุปเปอร์ ซาร่า จำกัด ผู้นำเข้ารถเมล์เอ็นจีวี ได้เป็นโจทย์ฟ้อง กรมศุลกากร กับพวก ประกอบด้วย นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร, นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร, นายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง, นายธีระชาติ อินทริง, นายวิฑูรย์ อาจารียวุฒิ ประธานฯ และกรรมการตรวจปล่อยรถยนต์ใหม่ที่นำเข้า โจทย์ฟ้องจำเลยที่ 1 ให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ว่าร่วมกันจงใจกระทำละเมิดหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
กล่าวหาว่า โจทก์แสดงถิ่นกำเนิดอันเป็นเท็จ โดยยึดหน่วงรถยนต์โดยสารเอ็นจีวีที่นำเข้าจากประเทศมาเลเซียจำนวน 99 คัน ซึ่งความจริงหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดออกโดย หน่วยงานราชการประเทศมาเลเซีย โดยไม่มีพยานหลักฐานใด ๆ อันเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 และประมวลระเบียบปฏิบัติศุลกากร พ.ศ.2556 ข้อ 4 03 06 05 เรื่องการยกเว้นอากรและลดอัตราอากรศุลกากร สำหรับของที่มีถิ่นกำเนิดจากอาเซียน(ATIGA)
อีกทั้งยังทำให้โจทก์ส่งมอบรถยนต์โดยสารดังกล่าวให้แก่ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ไม่ทันตามกำหนดเวลาตามสัญญาอีกด้วย โจทก์ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการนำเข้าโดยถูกต้อง จำเลยทั้งหก จึงไม่มีสิทธิยึดหน่วงรถยนต์โดยสารปรับอากาศ เอ็นจีวีดังกล่าว
โดยก่อนฟ้องคดีนี้ โจทย์ได้มีหนังสือโต้แย้งการกระทำของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 แล้ว แต่จำเลยทั้งหกไม่ยอมส่งมอบรถยนต์โดยสารเอ็นจีวี ให้แก่โจทก์และพยายามจงใจให้โจทก์ชำระค่าปรับในอัตราสองเท่านอกเหนือจากค่าภาษีอัตราปกติอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติศุลกากร พ.ศ.2556 ข้อ 4 03 06 05 เรื่องการยกเว้นอากรและลดอัตราอากรศุลกากรสำหรับของที่มีถิ่นกำเนิดจากอาเซียน (ATIGA) และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 และหน่วงเหนี่ยวถ่วงเวลาเพื่อมิให้โจทก์ได้รับรถยนต์โดยสารปรับอากาศ เอ็นจีวี
ศาลจังหวัดพัทยา ได้ไต่สวนฉุกเฉินและมีคำสั่งว่า คำฟ้องโจทย์มีเหตุผลเพียงพอและพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ยึดหน่วงรถโดยสารไว้ ทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานอย่างเพียงพอว่าหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด (Form D) เป็นเท็จหรือไม่หรือมีเหตุอื่นหรือไม่และให้โจทย์วางค่าปรับนอกเหนือจากเงินประกันค่าภาษีอัตราร้อยละ 40 โดยไม่เป็นไปตามประมวลระเบียบปฏิบัติของกรมศุลกากร พ.ศ. 2556 เรื่องการยกเว้นอากรและลดอัตราอากรศุลกากร สำหรับของมีถิ่นกำเนิดจากอาเซียนทำให้โจทย์เสียหาย
จึงมีเหตุที่จะคุ้มครองประโยชน์ของโจทย์ไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา จึงมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหกร่วมกันปล่อยรถยนต์โดยสาร ตามหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด และโจทย์ต้องวางเงินประกันภาษีนำเข้าอัตราร้อยละ 40 ของมูลค่ารถยนต์แต่ละคันและไม่ต้องชำระค่าปรับตามประมวลระเบียบปฏิบัติของกรมศุลกากร พ.ศ.2556 และให้จำเลยทั้งหกร่วมกันออกหนังสือรับรองการจดทะเบียนรถยนต์แต่ละคันด้วย
ด้านนายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผอ.ขสมก. กล่าวว่าได้รับทราบแล้วว่าศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินให้บริษัทฯ ผู้นำเข้าสามารถนำรถเอ็นจีวี ออกมาโดยให้วางเฉพาะเงินประกันภาษี 40 เปอร์เซ็นต์ไม่ต้องวางประกันค่าปรับ 2 เท่า ตรงนี่ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งจะนำไปหารือกับคณะกรรมการตรวจรับและบอร์ด ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่า คนกรุงเทพฯ อาจได้ใช้รถใหม่ในเร็ววันนี้ .