สนช.ถามประเด็นตั้งถามรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกรณีอูเบอร์ ชี้แจงกำลังศึกษาเอาเข้ามาวิธีใด เพื่อทำให้ถูกหรือออกกฏหมายใหม่ แต่ย้ำต้องทำอย่างรอบคอบ ส่วนทาง กมธ.ชี้แจงสรุปเหตุการณ์ผู้โดยสารหญิงท้อง 6 เดือน พลัดตกรางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมถึงจำนวนเจ้าหน้าที่และให้มีมาตรการดูแลให้ชัดเจน
ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณากระทู้ถามของนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช.ที่ถามกระทรวงคมนาคมถึงปัญหาการให้บริการรถยนต์ป้ายดำผ่ายแอพพลิเคชั่น หรือ อูเบอร์ เกี่ยวกับนโยบายในการให้บริการรถอูเบอร์ให้ถูกกฎหมาย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการรถยนต์สาธารณะหรือไม่ ขณะเดียวกัน มีมาตรการไม่เกิดการกระทบกระทั่งกันหรือความขัดแย้งระหว่างผู้ขับแท็กซี่กับผู้ขับรถอูเบอร์หรือไม่ โดยมีนายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาของกระทรวง ว่าจะนำอูเบอร์เข้ามาในระบบโดยวิธีการใด ซึ่งมีอยู่ 2 แนวทาง คือ ทำให้ถูกกฎหมายหรือออกกฎหมายใหม่ ซึ่งทั้ง 2 แนวทางก็มีข้อดีข้อเสียที่จะต้องศึกษาให้รอบคอบ และมีคำตอบให้ชัดเจนเพื่อเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย โดยเฉพาะประชาชนผู้ใช้บริการ ตัวแท็กซี่ที่มีประมาน 120,000 คัน รวมถึงภาพลักษณ์ของประเทศด้วย
อย่างไรก็ตามบริเวณด้านนอกรัฐสภา ได้มีกลุ่มผู้ขับแท็กซี่สาธารณะ กว่า 30 คนนำรถแท็กซี่มาจอดเป็นแถวยาวหน้าบริเวณรัฐสภา พร้อมทั้งชูป้าย เพื่อคัดค้านรถอูเบอร์ ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความเรียบร้อยด้วย ทั้งนี้นายวรพล แกมขุนทด นายกสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบอาชีพรถแท็กซี่ที่อยู่ภายใต้กฎหมายพ.ร.บ.2522 โดยนายวรพล กล่าวว่า ปัจจุบันมีการสนับสนุนต่างชาติ เช่นบริษัท อูเบอร์ ได้เข้ามาทำธุรกิจรับส่งผู้โดยสารและบริษัทแกร็บคาร์ ที่เข้าทำธุรกิจประเภทเดียวกันซึ่งถือเป็นการจงใจแย่งงานและทำลายอุตสาหกรรมประเทศไทย เป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากใช้รถบ้านหรือรถป้ายดำ ในการวิ่งรับส่งผู้โดยสาร นอกจากนี้ผู้โดยสารยังจ่ายค่าโดยสารผ่านบัตรเครดิต อันเป็นการนำเงินรายได้ที่ควรเป็นของคนไทยออกนอกประเทศ ดังนั้นถ้าบริษัท อูเบอร์ ต้องการจะทำธุรกิจนี้ในประเทศไทยต่อ ต้องจดทะเบียนรถยนต์เป็นรถสาธารณะ และมีใบขับขี่สาธารณะ จึงขอความเป็นธรรมและคัดค้านในการดำเนินการที่ผิดกฎหมายด้วย
ทางด้าน พล.ท.จเรศักณิ์ อานุภาพ ประธาน คณะกรรมาธิการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้เชิญนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม และ นายวิสุทธิ์ จันมณี รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด มาชี้แจงสรุปเหตุการณ์ผู้โดยสารหญิงท้อง 6 เดือน พลัดตกราง และโดนรถไฟฟ้าทับร่างที่บริเวณชานชาลาฝั่งขาเข้าเมือง สถานีบ้านทับช้าง เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งทางได้ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ได้รวบรวมเงินจากคณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร พนักงานช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจำนวน 76,000 บาท และประสานไปยังบริษัทประกันภัยเพื่อให้การช่วยเหลืออีก 4 แสนบาทพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานศพ
ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ มีข้อเสนอให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมถึงจำนวนเจ้าหน้าที่และให้มีมาตรการดูแลให้ชัดเจน เพิ่มระบบอัตโนมัติการแจ้งเตือนเมื่อมีขบวนรถไฟเคลื่อนมาบริเวณชานชาลา ส่วนที่กำลังจะติดตั้งประตูกั้นบริเวณชานชาลาห่างจากราง 30 เซนติเมตร กรรมาธิการเสนอให้ห่างประเมตร 1 เมตรเพื่อความปลอดภัย และต้องควบคุมดูแลความเรียบร้อยในชั่วโมงเร่งด่วนที่มีผู้โดยสารเข้ามาใช้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์ข้อมูลการปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงให้ความรู้แก้ผู้มาใช้บริการ