สลดอีกครั้งเมื่อพบเต่าตนุหนักเกือบ 100 กิโลกรัมลอยตายใกล้ท่าเรือเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุ และลอยตายเป็นตัวที่ 4 แล้วในรอบเดือนนี้
เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะพะงัน เดินทางไปตรวจสอบซากเต่าทะเลตัวใหญ่ลอยอยู่บริเวณอ่าวท้องศาลา ใกล้กับท่าเทียบเรือเกาะพะงัน หลังจาก นายประพันธ์ เดี่ยววานิช ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบซากเต่าดังกล่าวลอยอยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 200 เมตร ซึ่งชาวบ้านไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ประมงอำเภอเกาะพะงัน จึงช่วยกันนำซากเต่าขึ้นมาจากน้ำ ก่อนนำไปฝังไว้ที่ริมชายหาด เพื่อรอเจ้าหน้าที่มาผ่าตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายของเต่าทะเลตัวนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการตรวจสอบซากเต่าเบื้องต้น พบว่าเป็นเต่าตนุ ไม่ทราบเพศ วัดความยาวได้ 1.2 เมตร กว้าง 80 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 80-100 กิโลกรัม อายุประมาณ 30 ปี จากสภาพคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ตรวจสอบตามลำตัวไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย จึงยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายของเต่าตนุตัวนี้ได้ โดยทางอาสาสมัครมูลนิธิฯ ช่วยกันขุดหลุมฝังไว้บริเวณชายหาด รอประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ขณะเดี่ยวกันจากข้อมูลในพื้นที่พบว่า ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มิ.ย.60 มานี้ ได้พบซากเต่าตนุ ถูกคลื่นซัดมาเกยตื่นที่ชายหาดเกาะสมุยจำนวน 1 ตัว และถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยที่ชายหาดเกาะพะงันมาแล้วจำนวน 3 ตัว ซึ่งเต่านุที่ถูกคลื่นซัดมาเกยที่ชายหาดเกาะสมุย ทางเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งภาคใต้ตอนกลาง ได้เดินทางมาผ่าพิสูจน์แล้ว ผลพิสูจน์พบว่าน่าจะเกิดจากอาการป่วย ส่วนเต่าตนุ ที่พบในเกาะพะงัน จำนวน 3 ตัว ที่ชาวบ้านช่วยกันฝั่งไว้ริมชายหาดเพื่อรอเจ้าหน้าที่เดินทางมาผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย ยังคงต้องรอเจ้าหน้าที่ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุ
เช่นเดียวกับชาวบ้านในพื้นที่ อ.เกาะสมุย และ อ.เกาะพะงัน เริ่มตั้งข้อสังเกตถึงการตายของเต่าทะเลที่ตายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ เนื่องจากในพื้นที่ไม่เคยมีซากเต่าทะเลถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่ชายหาดบ่อยมากขนาดนี้ ซึ่งชาวบ้านเกรงว่า หากยังพบซากเต่าทะเล ถูกคลื่นซัดเข้าชายหาดเพิ่มจำนวนขึ้นอีก และยังไม่ทราบสาเหตุการตาย อาจจะส่งผลให้ประชากรเต่าในทะเลอ่าวไทยลดปริมาณจำนวนประชากรเต่าทะเลลงอย่างรวดเร็วได้