จากสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกตกต่ำเหลือเพียงแค่ 6,200-6,500 บาทต่อตัน ทำให้ จ.พิจิตร พร้อมด้วยสหกรณ์ จับมือกับ ธกส. รับซื้อข้าวจากชาวนาเข้ายุ้งฉางโดยตรงเพื่อชะลอการขาย คาดอีก 2 เดือนราคาขยับขึ้นแน่นอน
นายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการ จ.พิจิตร พร้อมด้วย นายเจริญ ทองหลอม สหกรณ์จังหวัดพิจิตร และ นายวิชาญ เทียมทัน ผอ.ธกส.พิจิตร พร้อมด้วยนายสมเกียรติ โสภณพงศ์พิพัฒน์ ผู้จัดการสหกรณ์ชาวนาวชิรบารมี และ นายศิริพงษ์ วรอภิญญาภรณ์ หรือ “เสี่ยโอ๊ค” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีบีเอสไรซ์มิลล์ จำกัด ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร ร่วมกันทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการสินเชื่อเพื่อการรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันเกษตรกร ซึ่งเป็นโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี 60/61 โดยร่วมกันทำพิธีลงนามที่โรงสีทีบีเอสไรซ์มิลล์ จำกัด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (14 มี.ค.61)
รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า เพื่อเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ปลูกข้าวใน จ.พิจิตร จึงได้มีโครงการชะลอการขายข้าวเปลือกในช่วงออกสู่ตลาดในปริมาณมากเกินความต้องการของตลาด เพราะถ้าสินค้ามีมากราคาก็จะถูกลง ซึ่งเกษตรกรสามารถจำนำข้าวในยุ้งฉางของตนเองได้ แต่ปรากฏว่าเกษตรกรปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่ไม่มียุ้งฉางของตนเอง ดังนั้น ธกส. จึงผ่อนปรนให้สถาบันเกษตรกรสามารถเป็นผู้รวบรวมผลผลิตของเกษตรกรเพื่อการจำนำกับ ธกส. ได้ อีกทั้งถ้าสถาบันเกษตรกรไม่มียุ้งฉางก็สามารถเช่ายุ้งฉางเอกชนในการเก็บรักษาข้าวเปลือกได้ ซึ่งสหกรณ์ชาวนาวชิรบารมี มีการดำเนินการขอสินเชื่อจากธกส.พิจิตร ในวงเงิน 36 ล้านบาท และรับข้าวเปลือกจากเกษตรกรจำนวน 395 ราย ปริมาณ 5,000 ตัน ดำเนินกิจกรรมมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2560 ถึง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ใมนการรวบรวมผลผลิต เพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกและเก็บไว้ในโกดัง ซึ่งสหกรณ์ชาวนาวชิรบารมี มาทำการเช่าโกดังของ โรงสีทีบีเอสไรซ์มิลล์ จำกัด ในการเก็บข้าวเปลือกดังกล่าว
ในส่วนของราคาข้าวปัจจุบัน นายศิริพงษ์ วรอภิญญาภรณ์ หรือ “เสี่ยโอ๊ค”กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีบีเอสไรซ์มิลล์ จำกัด เปิดเผยว่า วันนี้ราคารับซื้อข้าวเปลือกนาปรังรับซื้ออยู่ที่ตันละ 6,200-6,500 บาท เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ต่ำสุด ๆ แล้ว เนื่องจากในช่วงนี้ปริมาณข้าวในท้องตลาดยังคงมีมาก แต่คาดการณ์ว่าหลังจากนี้อีก 2 เดือน (ประมาณปลายเดือนพฤษภาคม – ต้นเดือน มิถุนายนนี้) มั่นใจว่าราคาข้าวเปลือกจะขยับสูงขึ้น อีกทั้งอยากจะขอแนะนำเกษตรกร หากต้องการปลูกข้าวนาปีในฤดูกาลหน้าที่จะถึงนี้ ขอให้ใส่ใจการดูแลผลผลิต รวมทั้งอยากให้ปลูกข้าวหนักซึ่งหมายถึงที่มีอายุตั้งแต่วันปลูกจนถึงวันเก็บเกี่ยวไม่น้อยกว่า 120 วัน เพราะข้าวหนักจะเป็นที่ต้องการของโรงสีข้าว ส่วนข้าวเบานั้น วันปลูกจนถึงวันเก็บเกี่ยวมีอายุแค่ 90 วัน เปลือกหนา เมล็ดข้าวมีแป้งน้อย ข้าวประเภทนี้โรงสีไม่ต้องการ ถึงจะช่วยรับซื้อก็จะได้ราคาถูกไม่คุ้มค่าในการปลูกดังกล่าว