ชาวบ้านร้อง โรงงานหล่อพระที่ อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ ก่อมลพิษส่งผลกระทบต่อสุขภาพคนในชุมชนวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ หลังเคยร้องเรียนมานานกว่า 2 ปี เรื่องยังไม่คืบ
เมื่อช่วงสายวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา นายสุชาย เบญจขันธ์ อายุ 51ปี ตัวแทนชาวบ้านขาม หมู่ 2 ตำบลบ้านขาม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ได้นำชาวบ้านกว่า30ครอบครัว เข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อร้องเรียน กรณีโรงงานอุตสาหกรรมหล่อพระพุทธรูป คูณลาภ คูณเงิน คูณทอง ของนางสาวจันทร์เพ็ญ บุญเทศ อายุ 50ปี ตั้งอยู่เลขที 139 หมู่ 2บ้านขาม ต.บ้านขาม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่โดยรอบโรงงานอย่างหนัก ทั้งในเรื่องของเสียงที่ดัง การทำการเผาโลหะสารเคมี มีควันเขม่าคลุ้งและมีกลิ่นเหม็นไปทั่วชุมชน จนชาวบ้านได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งจิตใจ และร่างกาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านหลายรายมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก แสบจมูก มีน้ำมูก เวียนศีรษะ แสบคอ ไอและอาเจียนมาโดยตลอด แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เริ่มได้รับผลกระทบรุนแรงมากขึ้น จนรู้สึกว่าทนไม่ไหว เมื่อแจ้งไปยังโรงงานก็ได้รับคำตอบว่าได้แก้ไขและเฝ้าระวังปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังได้รับกระทบอยู่ ชาวบ้านจึงชักชวนกันร่วมลงชื่อเพื่อแจ้งไปยังนายอำเภอจัตุรัส แล้วส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตให้โรงงานดังกล่าว ให้เข้ามาแก้ไขปัญหาต่อไป
น.ส.ละออ กลัดงิ้ว ชาวบ้าน ม.2 ต.บ้านขาม อ.จัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า บ้านของตนอยู่ติดกับโรงงานหล่อพระ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงและรุนแรง ทั้งเสียงและกลิ่นควันที่เผาไหม้โลหะหล่อพระ ทำให้มีอาการจุก แน่นหน้าอก จนอาเจียน รวมทั้งเสียงที่ดังมากจนทำให้คนในบ้านไม่สามารถนอนหลับได้สนิท คนในบ้านทีอยู่ใกล้กันก็ต้องตะโกนคุยกัน เป็นการเสียทั้งสุขภาพจิตใจและร่างกาย จึงอยากขอร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลโดยด่วน ซึ่งในขณะนี้ชาวบ้านกลัวว่าสารพิษที่มาพร้อมกับกลิ่นและควันนั้น อาจจะทำให้เป็นโรคร้ายได้
ด้าน น.ส.จันทร์เพ็ญ บุญเทศ เจ้าของโรงงานคูณลาภ คูณเงิน คูณทอง กล่าวว่า ปัจจุบันโรงงานอยู่ในระหว่างเริ่มดำเนินการทดสอบกระบวนการผลิตหล่อพระเป็นครั้งสุดท้ายเป็นการซ่อมงานให้ลูกค้า ส่วนเรื่องเสียงดังรบกวนชาวบ้านนั้น ทางโรงงานได้เตรียมมาตรการเพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น คือ มาตรการป้องกันและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตลอด 24 ชั่วโมง โดยจัดให้มีการตรวจวัดคุณภาพอากาศรอบๆ และตรวจวัดคุณภาพอากาศ และหลีกเลี่ยงกระบวนการผลิตที่จะทำให้เกิดเสียง ในช่วงเวลากลางคืน โดยมีการปรับปรุงการผลิตในช่วง08.00น.ถึง17.00น.เท่านั้น รวมถึงการตรวจวัดคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ และจุดระบายน้ำทิ้งของเขตประกอบการ ซึ่งทางโรงงานขอเวลาในการปรับปรุงอีกระยะหนึ่งเพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก และในขณะนี้ก็ตรวจสอบเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้ว
ในขณะที่ นายสมบูณ์ ศรีทอง หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า โรงงานดังกล่าวก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2539 และขาดต่ออายุการประกอบกิจการมาตั้งแต่ช่วงปี 2558 ทางอุตสาหกรรมจังหวัดจึงต้องให้ไปยื่นขออนุญาตใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ทางผู้ประกอบการจะมีการก่อสร้างโรงงานเพิ่มขึ้นอีก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วแต่ยังไม่ได้อนุญาตเพราะเห็นว่าชุมชนโดยรอบโรงงานเริ่มหนาแน่นมากขึ้น ไม่ควรออกใบอนุญาตให้ขยายกิจการเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ให้ทางโรงงานได้ไปจัดทำแผนการจัดการระบบการผลิต และการจัดการระบบสิ่งแวดล้อมต่างๆ ภายใน15วัน เพื่อมาชี้แจงให้ชาวบ้านและคณะกรรมการทราบโดยด่วน