กองปราบ จับ ๑๘ มงกุฎ แอบอ้างเป็นลูกชายนายทหาร หลอกลวงร่วมลงทุน “ฉ้อโกงทรัพย์” “ยักยอกทรัพย์ ” หลายสิบคดี มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
ด้วยเมื่อวันที่ ๒๘ ก.ค.๒๕๖๐ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ ๓ กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยสั่งการของ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.,พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.,พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย,พ.ต.อ.พลฑิต ไชยรส,พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.๓ บก.ป.,พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป,พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.๓ บก.ป.สั่งการให้ พ.ต.ต.เอนก บุญตา สว.กก.๓ บก.ป.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.๕ กก.๓ บก.ป.เข้าทำการจับกุม นายณพสร หรือยุทธนา สาพิทักษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลแขวงชลบุรี ที่๑๕/๒๕๕๙ ลง ๒ ก.พ.๒๕๕๙ ซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันยักยอกทรัพย์ผู้อื่น” และนางสาวลลิตา ฤทธิวิชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงชลบุรี ที่ ๑๖/๒๕๕๙ ลง ๒ ก.พ.๒๕๕๙ ซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันยักยอกทรัพย์ผู้อื่น” โดยต้องหาทั้งสองรายเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีเกี่ยวกับทรัพย์ “ฉ้อโกงทรัพย์” “ยักยอกทรัพย์” จำนวนหลายคดี
พฤติการณ์ กล่าวคือด้วยเมื่อวันที่ ๗ ก.ค.๖๐ นายณพสร สาพิทักษ์ ได้แอบอ้างเป็น บุตรชาย บุตรชาย พลเอก คณิต สาพิทักษ์ อดีตแม่ทัพภาคที่1 พร้อม นางสาวลลิตา ฤทธิวิชัย แฟนสาว เพื่อความน่าเชื่อถือเข้าตีสนิทผู้เสียหาย ในพื้นที่ จ.จันทบุรี แล้วได้หลอกให้ผู้เสียหายทำการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์และได้ชักชวนผู้เสียหายให้ร่วมลงทุน ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นบุตรของนายทหารจริง จึงมอบเงินและติดเครื่องเสียงรถยนต์ให้ ซึ่งมูลค่าความเสียหายประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๓ บก.ป.จึงได้ออกสืบสวนจับกุม จนกระทั่งวันนี้ ๒๘ ก.ค.๖๐ เวลาประมาณ น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง ๒ รายได้เดินทางไปทำธุระในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จึงเข้าแสดงตัวและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาทั้ง ๒ รายดูรับว่าถูกต้อง และรับสารภาพว่าได้ร่วมกันกระทำความผิดจริง จึงได้ทำการจับกุมตัวส่งพนักงาน สอบสวน สภ.บ้านบึง ดำเนินคดีตามกฎหมายและจะได้แจ้งพนักงานสอบสวนอื่นอายัดตัวต่อไป
นายณพสร สาพิทักษ์ ผู้ต้องหา ให้การว่าเคยก่อเหตุโดยแอบอ้างเป็นบุตรชายนายทหารระดับสูง หลอกลวงผู้เสียหายมาจำนวนหลาย ๑๐ คดี ทั้งคดีที่ขาดอายุความและมีการตกลงค่าเสียหายกับผู้เสียหาย และถอนหมายจับอีกจำนวนหนึ่ง ปัจจุบันพบว่ายังเหลือหมายจับที่ต้องการตัวอีก ๔ คดี
๑.หมายจับศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ จ.๑๓๔/๒๕๕๗ ลง ๒๕ ส.ค.๕๗ ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์” หลอกลงทุนจำหน่ายเสื้อผ้า มูลค่าความเสียหาย ๑๐๐,๐๐๐ บาท ( สภ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ)
๒.หมายจับศาลจังหวัดพะเยา ที่ จ.๑๘/๒๕๕๗ ลง ๑๘ มี.ค.๕๘ ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์” หลอกลงทุนทำสวนส้ม มูลค่าความเสียหาย ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท (สภ.เมืองพะเยา)
๓.หมายจับศาลแขวงชลบุรี ที่ ๑๕/๒๕๕๙ ลง ๒ ก.พ.๕๙ ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันยักยอกทรัพย์ ” มูลค่าความเสียหาย ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สภ.บ้านบึง)
๔.หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ ๓๘๕/๒๕๕๖ ลง ๒๖ ส.ค.๒๕๕๖ ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ”มูลค่าความเสียหายประมาณ ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท ( สน.บางโพงพาง )
ส่วน นางสาวลลิตา ฤทธิวิชัย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน ๑ หมาย
๑.หมายจับศาลแขวงชลบุรี ที่ ๑๕/๒๕๕๙ ลง ๒ ก.พ.๕๙ ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันยักยอกทรัพย์ ” มูลค่าความเสียหาย ๒๐๐,๐๐๐ บาท
ซึ่งจากการสอบถามนายณพสร สาพิทักษ์ ตนเองได้แอบอ้างเป็นบุตรชายนายทหาร ลักษณะดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายของผู้เสียหายหลายรายรวมกันประมาณ ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท หลังก่อเหตุได้เงินจากการหลอกลวงได้นำเงินมาใช้จ่ายส่วนตัวเมื่อเงินหมดก็จะออกทำการหลอกลวงโดยใช้พฤติกรรมเดิม
สถานที่จับกุม สถานีบริการน้ำมัน ปตท.หมู่ ๔ ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จึงเรียนแจ้งประชาสัมพันธ์มาเพื่อทราบ