นายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมจัดกิจกรรมชิงเผาทำแนวกันไฟป้องกันปัญหาหมอกควันไฟป่า ณ บริเวณป่าชุมชน บ.ทุ่งโป่ง ม.1 ต.ทุ่งยาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และอีกหลายพื้นที่ใน อ.ปาย โดยได้จัดให้มีกิจกรรมกำจัดเศษวัชพืชและเศษใบไม้แห้งที่เป็นแหล่งเชื้อเพลิงตามหลักวิชาการ โดยทำการชิงเผาและทำแนวกันไฟ เป็นการป้องกันจุดเสี่ยงมิให้เกิดไฟป่า โดยมีชาวบ้านให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
สำหรับการร่วมกันทำแนวกันไฟป้องกันปัญหาหมอกควันไฟป่าบริเวณริมถนนสาย 1095 เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน บ.ทุ่งโป่ง ม.1 ต.ทุ่งยาว อ.ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในครั้งนี้ มีหลายหน่วยเข้าร่วมทำกิจกรรม เช่นสถานีควบคุมไฟป่าลุ่มน้ำปาย สบอ.16 สาขาแม่สะเรียง , เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าห้วยน้ำดัง , หน่วยดับไฟป่าเคลื่อนที่แม่ปิง , หน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่สาและ หน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่แสะ จัดกำลังออกลาดตระเวนกำจัดเชื้อเพลิงในป่าพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อการลอบเผา และดับไฟป่าในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
จากรายงานของคณะทำงานแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันไฟป่า ระบุว่า ตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. เป็นต้นมา ซึ่งเป็นห้วงที่ไม่ได้มีการบังคับใช้กฎหมายต่อการลอบเผาป่า แต่พบว่ามีการเกิดไฟป่าในหลายพื้นที่ตั้งแต่ อ.สบเมย , อ.แม่สะเรียง , อ.แม่ลาน้อย , อ.ขุนยวม , อ.เมืองแม่ฮ่องสอน , อ.ปายมะผ้า ขึ้นไปจนถึง อ.ปาย ซึ่งไฟป่าที่เกิดขึ้น เป็นไฟป่าขนาดใหญ่จนดาวเทียมสามารถตรวจพบ จุดไฟป่า (ฮอทสปอต) หลายจุด ซึ่งจุดที่เกิดไฟป่าไม่ได้เป็นจุดเดียวกับที่มีการชิงเผาแต่อย่างใด และค่าฝุ่นละออง (PM10) เริ่มใกล้เข้าสู่ขั้นวิกฤติแล้ว
แหล่งข่าวในคณะทำงานไฟป่าฯ ระบุว่า ขณะนี้การบริหารจัดการปัญหาไฟป่าและหมอกควันไฟป่า ผู้บริหารเริ่มมีเสียงแตกแยกทางความคิด บางคนก็คิดว่าควรจะห้ามเผาอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ต้องให้เกิดภาวะมลพิษในอากาศจนค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ปฏิบัติงาน มีความเห็นแย้งว่า ควรที่จะชิงกำจัดเชื้อเพลิงในป่า (ชิงเผา) ให้มากที่สุด เพราะไม่มั่นใจในศักยภาพของผู้นำชุมชน
ทั้งนี้ ในห้วงที่ผ่านมาของทุกปี ผู้นำชุมชนทุกแห่งแทบจะไม่สามารถควบคุมประชาชนในพื้นที่ของตัวเองไม่ให้ลอบเผาป่าได้อย่างเด็ดขาด และพบว่ายังคงมีการลอบเผาป่าอย่างหนักในแทบทุกพื้นที่ของ จ.แม่ฮ่องสอน