เจ้าของร้านเวดดิ้งสตูดิโอเมืองสองแควสุดช้ำ โอดครวญคู่บ่าวสาวแต่งงานเสร็จหนีหายไม่มาจ่ายเงินร่วม 2 หมื่นบาท วอนเห็นใจคนทำธุรกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียลของชาว จ.พิษณุโลก มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์และส่งแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก ถึงกรณีมีคู่บ่าวสาวคู่หนึ่งที่เพิ่งจัดงานแต่งงานไป โดยซื้อแพ็คเกจแต่งงานพร้อมว่าจ้างร้านเวดดิ้งสตูดิโอให้เข้ามาดูแลตั้งแต่เรื่องถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ชุดแต่งงาน จัดตกแต่งสถานที่ ช่างถ่ายภาพงานวันจริง ฯลฯ แต่พอหลังจากแล้วเสร็จงานแต่งแล้วกลับหนีหายไม่ยอมมาจ่ายเงินเคลียร์หนี้สินกับทางร้าน จนเจ้าของร้านทนไม่ไหวเพราะอาจจะถูกโกงทำให้ต้องไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองพิษณุโลก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่ร้านรักจัง เวดดิ้งสตูดิโอ พิษณุโลก ตั้งอยู่เลขที่ 293/10 ถ.บรมไตรโลกนารถ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งพบกับนางจุฬาลักษณ์ อุสาย อายุ 31 ปี เจ้าของร้าน กำลังอยู่ดูแลลูกค้าที่กำลังมาใช้บริการเลือกชุดแต่งงานและเลือกซื้อแพ็คเกจแต่งงานต่างๆ อยู่ภายในร้าน พร้อมกับเปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มตั้งแต่มีคู่บ่าวสาวคู่หนึ่งเข้ามาเลือกใช้บริการเลือกซื้อแพ็คเกจแต่งงานกับทางร้าน เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 60 ที่ผ่านมา ซึ่งจะจัดงานพิธีมงคลสมรสในวันที่ 29 มิ.ย. 60 โดยเลือกโปรโมชั่นพิธีเช้าราคา 19,900 บาท ซึ่งทางร้านมีให้ตั้งแต่ชุดไทยเจ้าบ่าว เจ้าสาว พร้อมเครื่องประดับ ถ่ายพรีเวดดิ้งเอ้าท์ดอร์ แต่งหน้า ทำผม มอบไฟล์รูปภาพทั้งหมดและภาพวันจริงใส่กรอบสวยงาม จัดชุดตั่งหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ฉากดอกไม้ โต๊ะวางกล่องใส่ซอง เป็นต้น โดยทางร้านขอให้ลูกค้าวางมัดจำไว้จำนวน 3,000 บาท และจะไปเก็บมัดจำวันถ่ายพรีเวดดิ้งอีก 2,000 บาท รวมที่ลูกค้าจ่ายมาแล้วจำนวน 5,000 บาท แต่ต่อมาลูกค้าขอเพิ่มโปรโมชั่นวันจริงให้ถ่ายภาพเพิ่มด้วยในราคา 6,900 บาท และขอเพิ่มของชำร่วยจำนวน 2,000 บาท สมุดประสาทพรจำนวน 199 บาท รวมทั้งสิ้นคิดเป็นเงินจำนวน 23,999 บาท ซึ่งทางร้านก็ยินดีไม่มีปัญหาแต่อย่างใดมิหนำซ้ำยังแถมของเล็กๆ น้อยๆ เพิ่มให้ในงานแต่งงานอีกด้วย
ต่อมาหลังจากคู่บ่าวสาวจัดงานแต่งงานเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. 60 ได้บอกกับทางร้านว่าจะรีบเข้ามาจ่ายเงินที่ค้างชำระอยู่ทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้เข้ามาติดต่อแต่อย่างใด อีกทั้งยังฝากชุดแต่งงานของคู่บ่าวสาวให้เพื่อนผู้หญิงมาส่งคืนที่ร้านอีกด้วย ซึ่งเจ้าของร้านพยายามโทรหาและติดต่อทักแชทไปทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของเจ้าสาวรายนี้ ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอดและขอผ่อนชำระในวันที่ 5 ก.ค. เป็นเงินจำนวน 18,000 บาท แต่สุดท้ายก็ไม่ได้นำเงินมาให้ทางร้านอีก จนเจ้าของร้านกินไม่ได้นอนไม่หลับเกรงว่าจะถูกโกงเงิน เพราะสุดท้ายโทรศัพท์ก็ปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ แถมยังถูกบล็อกเฟซบุ๊กหนีหายไปดื้อๆ จึงตัดสินใจเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจ้งว่าคดีนี้เป็นคดีความผิดทางแพ่ง เบื้องต้นคงต้องออกหมายเรียกคู่กรณีมาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันก่อน
ขณะที่ นางจุฬาลักษณ์ อุสาย เจ้าของร้านรักจัง เวดดิ้งสตูดิโอ พิษณุโลก กล่าวว่า ตนเองเข้าใจหัวอกคนที่กำลังจะแต่งงานดีว่าต้องใช้เงินจำนวนมาก เพราะการแต่งงานจะต้องจัดพิธีอย่างดีและสมเกียรติกับคู่บ่าวสาว หรือแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ซึ่งราคาแพ็คเกจแต่งงานของร้านของตนเองก็ถือว่าไม่แพงและเหมาะสม อีกทั้งตนยังแถมของส่วนต่างๆ ให้ไปในงานแต่งอีกด้วย เช่น รองเท้าเจ้าสาว ที่ปกติแล้วเจ้าสาวควรที่จะต้องเตรียมเอง แต่สุดท้ายกลับถูกลูกค้าหนีหายไม่ยอมมาจ่ายเงินกับทางร้าน ตนเองก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเช่นกัน ทั้งในเรื่องของค่าจ้างช่างภาพฟรีแลนซ์ ค่าจ้างช่างแต่งหน้า จึงอยากขอให้ช่วยเห็นใจคนทำธุรกิจด้วย เพราะปัจจุบันตนเองต้องเลี้ยงดูครอบครัว ดูแลลูกน้อยวัยแบเบาะ ล้วนมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีคณะวงดนตรีที่รับจ้างงานแต่งงานครั้งนี้ก็ยังได้รับเงินไม่ครบจำนวน 6,500 บาท ซึ่งได้โทรศัพท์มาปรึกษาร่วมกัน เพื่อจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมเร็วๆ นี้อีกด้วย
