เปิดกล้องวงจรปิด คนร้ายราดน้ำมันเผารถยนต์กว่า 12 คัน เสียหาย 10ล้าน คาดว่าคนร้ายหน้าจะอาศัยอยู่ในละแวกใกล้กันกับจุดเกิดเหตุ
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 26 มีนาคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. พานทอง ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้รถยนต์หลายคัน บริเวณถนนสุขประยูร และ ซอยวัดหนองตำลึง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี
พร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลพานทอง จำนวนกว่า 4 คัน จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่เกิดเหตุพบว่ารถกำลังลุกไหม้รถยนต์จำนวนหลายคัน ที่จอดริม ถนนสุขประยูรและซอยวัดหนองตำลึงอย่างรุนแรง
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงระดมฉีดน้ำเพื่อเข้าควบคุมเพลิงใช้เวลาจำนวนกว่า 2 ชั่วโมง กว่าจะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้เนื่องจากไฟได้ไหม้อย่างจุดทำให้รถดับเพลิงไม่เพียงพอ และจากเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีรถยนต์ถูกไฟไหม้ 1.รถกระบะ 6 คัน 2.รถตู้ 2 คัน 3.รถเก๋ง 6 คัน ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน เบื้องต้น มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ไม่รวมทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่ภายในรถยนต์อีกด้วย
การจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่า คนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 ซมรูปร่างอวบ ผมยาวประบ่า สวมเสื้อลายยืดคอกลมหลายพราง กางเกงขายาวสีดำสะพายกระเป๋าเป้สีดำ ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟร้อย สีน้ำเงิน-ดำไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาตามถนนสุขประยูรแล้วก็จะตะเวนใช้น้ำมันราดรถยนต์ของประชาชนที่จอดอยู่ตามไหล่ทางก็จะใช้ไฟแช็ดจุดน้ำมันจนทำให้เกิดไฟไหม้รถยนต์
หลังจากก่อเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าหลบหนีเข้า อำเภอพานทอง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดรายทางตามจุดต่างๆที่คนร้ายลงมือก่อเหตุราดน้ำมันจุดไฟเผารถยนต์ของประชาชน คาดว่าคนร้ายหน้าจะอาศัยอยู่ในละแวกกันใกล้กับจุดเกิดเหตุ
รวบหนุ่มสติไม่ดีราดน้ำมันใส่รถยนต์ประชาชน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. พานทอง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ คือ นาย วสิทธิ์ นันทิวัชวิภา อายุ 29 ปี ๖(เป็นคนสติไม่สมประกอบ) อยู่บ้านเลขที่ 59/2 หมู่ 6 ตำบลมาบโป่ง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมไว้ได้ที่บ้านพัก ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าที่นำน้ำมันไปราดรถยนต์ชาวบ้านและจุดไฟเผาเพราะว่าโกงแค้นที่ถูกชาวบ้านต่อว่า
การจากสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเล่าว่าผู้ต้องหาเข้าข่ายเป็นบุคคลสติไม่สมประกอบผู้จาไม่รู้เรื่องตอนเกิดเหตุหน้าจะเกิดอาการคลุมคลั่งเลยนำน้ำมันไปราดใส่รถยนต์ของประชาชนแล้วจุดไฟเผาเบื้องต้นจะนำตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวกการบำบัดและตรวจสอบสภาพจิตว่าปกติหรือไหม ถ้าพบว่าจิตปกติในขนาดเวลาก่อเหตุก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป