หลังจากวานนี้มีดราม่าสำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี ฌาปนกิจศพหญิงไร้ญาติโดยชาวบ้านต่างคัดค้านที่ประกอบพิธีทางศาสนาแม้จะไม่มีเมรุ แถมไม่รู้ว่าเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ด้านเจ้าอาวาสยืนกรานจะทำพิธีต่อไป ใครขวางเอาน้ำมันก๊าดราดใส่ไปด้วยแต่เคราะห์ดีที่เหตุการณ์นี้ไม่บานปลายเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ธรรมศาลา เข้ามาระงับเหตุได้ทัน ล่าสุด ทีมข่าวไบรท์นิวส์ไปตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว
เมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) ที่สำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี มีเหตุการณ์ พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตธัมโม พร้อมพระลูกวัดกำลังทำพิธีฌาปนกิจศพ นางอ้วน พัฒนะประเสริฐ ด้วยพิธีโบราณ คือ เผาศพบนกองฟอน แม้ว่าการฌาปนกิจศพดูไม่น่ามีอะไร แต่ชาวบ้านในย่านสำนักสงฆ์แห่งนี้ไม่พอใจที่จู่ ๆ พระในสำนักสงฆ์แห่งนี้มีสิทธิ์อะไรมาประกอบพิธีทางศาสนาเพราะที่นี่ไม่มีเมรุ อีกทั้งที่นี่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ไม่ทราบว่าจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ มิหนำซ้ำภาพการเผาศพแบบนี้มันจะเป็นภาพที่ไม่น่าดูสำหรับเด็กและเยาวชนหรือไม่ ซึ่งเหตุการณ์เมื่อวานนี้ก็มีการกระทบกระทั่งกันจากฝั่งพระของสำนักสงฆ์แห่งนี้และชาวบ้านที่ยืนกรานห้ามประกอบพิธีฌาปนกิจ เพราะผิดกฎหมายแต่ พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตธัมโม ผู้เป็นเจ้าอาวาส ยืนกรานจะทำพิธีต่อไป ใครขัดขวางก็เอาน้ำมันก๊าดราดใส่ไปด้วย แต่เคราะห์ดีที่เหตุการณ์นี้ไม่บานปลายเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ธรรมศาลา เข้ามาระงับเหตุได้ทัน
วันนี้ (6 ก.ค.60) ทางผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุที่สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ และพบว่าภายในสำนักปฏิบัติธรรมวันนี้มีพระสงฆ์และสามเณรเหลืออยู่ไม่ถึง 20 รูป โดยไร้ตัวของพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมื่อจะสอบถามกับพระรูปอื่น ๆ ก็ไม่มีใครยอมให้เข้าใกล้พอเดินไปพระเหล่านี้ก็เดินหนีไปทางอื่น และระหว่างนั้นผู้สื่อข่าว เลยสอบถามชาวบ้าน และได้ความว่า พระที่นี่แทบจะทั้งหมดของสำนักปฏิบัติธรรม เป็นพระต่างด้าวที่อพยบจากหลาย ๆ พื้นที่มาอยู่รวมกันที่นี่ตั้งแต่หลังน้ำท่วมปี 54 และพฤติกรรมของพระในสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ที่ไม่เหมาะไม่ควรแก่การเป็นพระ คือ ตกเย็นจะชอบสั่งหมูกระทะเข้ามานั่งสังสรรค์ ตั้งวงเล่นการพนัน ซื้อเหล้า-เบียร์มานั่งดื่มกิน หนักสุดคือการเชือดไก่มาทำอาหาร แถมชาวบ้านยังท้าผู้สื่อข่าวบอกว่า ถ้าไม่เชื่อในสิ่งที่พวกตนพูดลองเดินสำรวจรอบ ๆ สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ดู! ผู้สื่อข่าวไบรท์นิวส์จึงเดินสำรวจแนวริมรั้ววัด และพบภาพท้ายสำนักปฏิบัติธรรมนี้มีเศษขนไก่อยู่จริง ๆ และเมื่อเดินลึกไปอีกก็เจอขวดเบียร์ถูกห่ออยู่ในถุงร้านสะดวกซื้อเป็นจำนวนมาก ห่อละ 2-3 ขวด และบางถุงยังใหม่ ๆ เหมือนเพิ่งทิ้งได้ไม่กี่วันเอง
คำถามที่ชาวบ้านสงสัยคือศพของ นางอ้วน พัฒนะประเสริฐ ทำไมต้องมาประกอบพิธีฌาปนกิจที่นี่ และญาติของผู้ตายไปไหน ทำไมไม่มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาด้วยตัวเอง ผู้สื่อข่าวได้คำตอบนี้จากตำรวจ สน.ธรรมศาลา ว่า นางอ้วน เป็นคนไร้ญาติมาพักอาศัยที่นี่หลายปีแล้ว ซึ่งก่อนเสียชีวิต นางอ้วน พักอาศัยอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ แต่จู่ ๆ เกิดอาการช็อกหมดสติทุกคนในสำนักปฏิบัติธรรมจึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาสมุทรปราการ ก่อนจะเสียชีวิตด้วยสาเหตุภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
ส่วนคำถามต่อมา คือ ในเมื่อไม่มีญาติติดต่อขอรับศพ แล้วใครเป็นคนเซ็นเอกสารขอตัวศพมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เพราะในเมื่อเอกสารใบมรณะบัตรก็ลงลายเซ็นเจ้าหน้าที่เขตรับทราบ อีกทั้งก็ระบุถึงสถานที่ประกอบพิธีกรรมอย่างชัดเจน ซึ่งผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้ทั้งโรงพยาบาลสมุทรปราการ , สน.ธรรมศาลา และสำนักงานเขตทวีวัฒนา ก็หาตัวผู้เซ็นรับศพไม่ได้ ทั้งนี้ การกระทำในลักษณะนี้จะเข้าข่ายการละเมิดสิทธิ์และผิดกฏหมายหรือไม่ ก็พบว่าตามพระราชบัญญัติสุสานและฌาปนสถาน พ.ศ.2528 ในมาตรา 10 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดเก็บ ฝัง หรือเผาศพในสถานที่อื่น นอกจากในสุสานและฌาปนสถานสาธารณะหรือสุสานและฌาปนสถานเอกชน หรือเก็บศพในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลหรือเคหสถาน เป็นการชั่วคราว เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และหากฝ่าฝืนก็จะมีโทษปรับเงิน 2 พันบาท
อย่างไรก็ตาม คำถามมีมากมายเลยทั้งศพใครคนเซ็น ที่นี่มีสิทธิ์ทำได้หรือไม่ ในเมื่อสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้จดทะเบียนเป็นสำนักปฏิบัติธรรมกับทางสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อีกทั้งก็ยังไม่มีข้อสรุปว่าเป็นที่ของใครเพราะยังอยู่ในข้อพิพาทของศาลฏีกา แต่ที่ชาวบ้านสงสัย คือ เรื่องพระต่างด้าวในสำนักนี้ว่ามาจากไหน เพราะเมื่อช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหาร / ตำรวจ / ตม. / สำนักพระพุทธศาสนาฯ เคยนำตัวพระเถื่อนส่งตัวกลับประเทศไปเป็นคันรถมาแล้ว