แก็งค์ มิจฉาชีพออกต้มตุ๋น ผู้ที่นิยมเครื่องรางของคลัง นำภาพถ่าย อ้าง นักแสดง และข้าราชการระดับสูง ให้ความเชื่อถือ ศรัทธา มีการปลุกเสกและนำเข้าจากต่างประเทศ ล่าสุดตำรวจกองปราบตามรวมตัวได้ยกแก็งค์ตรวจสอบพบความเสียหาย กว่า500 ล้านบาท
องค์พระพิฆเนศในท่าปรางค์ต่างๆ รวมไปจนถึง เหล่าเมตตามหานิยม ที่มีสรรพคุณเสริมบุญบารมีให้ผู้ครอบครอง ที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะนี้เป็นวัตถุมงคลจากร้านปุ้มปุ้ยแอปเปิ้ลช็อป ของนางสาวสุมาลี เลิศวิลัย หรือเจ๊เปิ้ล ที่มีดุลการค้าทางธุรกิจนี้มากกว่าหลัก 5 ร้อยล้านบาทและมีเครือข่ายอยู่มากมาย
จุดเริ่มต้นของการตรวจสอบสิ่งผิดปกติของเครื่องรางที่เจ๊เปิ้ลเปิดเช่ามาจากประวีนุช จันทร์ประเสริฐ ที่เป็นตัวแทนรายใหญ่ในจังหวัดภูเก็ตของเจ๊เปิ้ล ถูกเจ๊เปิ้ลกลับยกเลิกการเป็นตัวแทน เพราะอ้างว่าทำผิดกฏ บวกกับมีกระแสพูดกันว่าเครื่องรางของเจ๊เปิ้ลคล้ายกับสิ่งที่ขายอยู่ในย่านพาหุรัดและท่าพระจันทร์
สุดท้ายของการจับกุมประวีนุชต้องล้มทั้งยืน เมื่อความจริงทั้งหมดปรากฏ ก็คือของทุกอย่างในร้านเจ๊เปิ้ลมาจากท่าพระจันทร์และพาหุรัด ซึ่งไม่มีชื้นใด ที่ปลุกเสกและนำจากประเทศเมียนมาร์และอินเดียตามสรรพคุณที่กล่าวอ้างไว้ อีกทั้งต้นทุนเครื่องรางทุกชิ้นมีราคาเพียงหยิบมือ แต่เจ๊เปิ้ลกลับหลอกให้เช่าบูชาอย่างหน้าเลือด
การจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นการกระชากหน้ากากนักธุรกิจคนดังในเมืองชุมพร ที่วางแผนหลอกลวงผู้คนด้วยการอวดอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการแอบอ้างดาราศิลปิน และเหล่าเซเลปไฮโซชื่อดังของเมืองไทยในการเป็นลูกค้าบูชาแล้วธุรกิจคล่องตัว แต่เรื่องทั้งหมดกลับถูกแฉว่าไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะภาพพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา น่ยกรัฐมนตรีและภริยาที่เดินทางไปปฏิบัติราชการต่างประเทศแต่เจ๊เปิ้ลกลับโยงว่าพลเอกประยุทธ์ไปร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลที่เมียนมาร์ และคลิปการปลุกเสกที่ลวงโลกแท้จริงก็คือการทำที่บ้านพักในชุมพรทั้งหมด
แม้จะรวบตัวเจ๊เปิ้ลและพรรคพวกได้เพียงบางส่วน แต่การตัดวงขบวนการนี้ ทางตำรวจกองปราบปรามถือว่าเพิ่งเริ่มต้นได้เพียงแค่ครึ่ง เพราะในขบวนการนี้ยังคงมีตัวละครผู้อยู่เบื้องหลังของการบูชาวัตถุมงคลจอมปลอม อีกไท่ต้ำกว่า 5 คน และไม่นานจากนี้ทางตำรวจมั่นใจว่าจะสามารถกระชากหน้ากากแกงค์ต้มตุ๋นนี้เพื่อปิดฉากขบวนการ การหากินบนความศรัทธาให้หมดสิ้นจากสังคมไทย