พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว เปิดเผยถึงกรณีที่กลุ่มคนร้ายยิงปืนใส่รถพยาบาลของ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ซึ่งมีพยานหลักฐาน ประกอบกับมีประจักษ์พยาน รวมถึงกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ โดยจะเร่งรัดหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชน
ทั้งนี้ คาดว่าใช้เวลาไม่นานก็จะทราบว่าเป็นกลุ่มใด เพราะตำรวจมีหลักฐานมากพอสมควร ส่วนรายละเอียดคดียังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งระหว่างมูลนิธิ ยังไม่อยากระบุว่าเป็นประเด็นสาเหตุของเรื่องนี้หรือไม่ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงก่อน
นายอัครเดช ทวิสุวรรณ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเวลา 03.00 น. ตนได้รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตลาดพร้าว ถูกเครื่องปั้มน้ำทับภายในซอยลาดพร้าว 101 ตนกับทีมกู้ภัยฯ ประจำจุดจึงได้รีบเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงปรากฏว่า ไม่มีเหตุตามที่แจ้งมาจึงกลับรถขณะนั้นเกิดเสียงปืนดังขึ้นไม่ไกลและมีกระสุนพุ่งเข้ามาภายในรถประมาณ 4 นัด ตนคิดว่าคนร้ายน่าจะใช้อาวุธปืนลูกโม่ ไม่ทราบขนาดยิงเข้าใส่รถ จากนั้นจึงหยุดรถลงไปตรวจสอบ เห็นผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ชายสองคนกำลังวิ่งหนีไป จึงได้วิ่งไล่ติดตามแต่ไม่ทัน ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สน.ลาดพร้าว แต่ตำรวจกลับบอกว่าให้มาแจ้งความที่ สน. เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ตนไม่ยอม ท้ายที่สุดจึงมีตำรวจและพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบเหตุช่วงเวลา 05.30 น. อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เพราะมีความชำนาญทางหลบหนีเป็นอย่างดี
นายอัครเดช กล่าวต่อว่า ตนพอจะเดาได้ว่าคนร้ายเป็นใคร เพราะเพิ่งมีเรื่องกันมาไม่นานนี้ เขาเป็นอาสาสมัครกู้ภัยแห่งหนึ่ง เคยเข้ามาวิ่งงานในพื้นที่ของผม ซึ่งผมรับผิดชอบโซนลาดพร้าว โชคชัย วังทองหลาง แต่เขาข้ามเขตมาวิ่งโซนผม ทั้งๆที่การทำงานของกู้ภัยฯ ก็มีการแบ่งโซนกันชัดเจนอยู่แล้ว