แจ้งจับกรรมการเครือ”เปรมชัย”รุกป่าภูเรือกว่า 6 พันไร่ ทำให้รัฐเสียหายกว่า 600 ล้านบาท
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ป่า อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร ได้บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ ที่ดิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ โดยได้ขอหมายค้นศาลจังหวัดเลย เข้าทำการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด ที่รังเย็นรีสอร์ท ตำบลโคกงาม อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ที่พื้นที่ และอาคาร ภูเรือวโนทยาน ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย และที่พื้นที่และอาคาร ชาโต้เดอเลย โรงงานผลิตไวน์ ไร่องุ่น
ผลการตรวจค้นพื้นที่และอาคาร รังเย็นรีสอร์ท ชาโต้เดอเลย โรงงานผลิตไวน์ ไร่องุ่น ไม่พบการกระทำผิดแต่อย่างใด ส่วนพื้นที่ภูเรือวโนทยาน พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่า โดยมีการปลูกต้นองุ่น และแมคคาเดเมีย เพื่อออกจำหน่าย และนอกจากนี้ได้ทำการตรวจสอบการครอบครองที่ดินในพื้นที่ของ บริษัท ซี พี เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
1.พื้นที่บริเวณ รังเย็นรีสอร์ท สภาพที่ดินเป็นลักษณะภูเขา บริเวณภูหมี ภูขี้นาค ภูเปือย อยู่ในเขตคาบเกี่ยว 2 อำเภอ อำเภอภูเรือกับอำเภอด่านซ้าย มีหลักฐานเป็นโฉนด เนื้อที่ 19 ไร่ 2 งาน
2. พบว่ามีการครอบครองทำประโยชน์ ปลูกพืชสวน มีเนื้อที่โดยประมาณกว่า 6,229 ไร่ โดยมีหลักฐานทางที่ดินเป็น น.ส.3 ก จำนวน 147 แปลง อยู่ในพื้นที่ตำบลโพนสูง อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย
ซึ่งต่อมา อธิบดีกรมที่ดิน ได้มีคำสั่ง เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2546 เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก ทั้งหมด เนื่องจากนำหลักฐาน สค.1 ผิดตำแหน่งมาออก น.ส.3ก ทำให้พื้นที่ดินดังกล่าวกลับมาเป็นที่ดินของรัฐ แต่ทางบริษัท ซี พี เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังมีความต้องการที่จะครอบครองทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวอ จึงได้ยื่นเรื่องขอสัมปทานตามมาตรา 12 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน บริเวณที่ดินที่ถูกเพิกถอน เพื่อทำเกษตรกรรม เพาะปลูก และจำหน่าย ดอกไม้ และพืชผลไม้เมืองหนาว กับสำนักงานที่ดินอำเภอภูเรือ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2552
เมื่อยื่นเรื่องแล้ว ต่อมาทราบว่า กรมที่ดิน จะมีโครงการเดินสำรวจออกเอกสารสิทธิ์ ในพื้นที่อำเภอภูเรือ และอำเภอด่านซ้าย จึงได้ขอยกเลิกสัมปทานเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อจะดำเนินการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ทั้งที่ทราบเป็นอย่างดีแล้วว่าเป็นที่ดินของรัฐ จนกระทั่งเดือนกันยายน 2556 ได้มีการออกโฉนดให้กับบริษัทฯ จำนวน 38 แปลง จึงเป็นการที่บริษัทได้ครอบครองพื้นที่ดินของรัฐ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ คิดเป็นเนื้อทีจำนวน 6,215 ไร่ คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐประมาณ 620 ล้านบาท
การกระทำของบริษัทฯ ซึ่งในการยื่นคำขอสัมปทาน ปรากฏชื่อ นางพิไลจิตร เริงพิทยา และนางนิจพร จรณะจิตต์ และการยื่นเรื่องขอยกเลิกสัมปทาน ปรากฏชื่อ นางพิไลจิตร เริงพิทยา และนางอรเอม เทิดประวัติ ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 , ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 มาตรา 97
นอกจากนี้เจ้าพนักงานที่ดิน จังหวัดเลย สาขาด่านซ้าย ยังได้ตรวจพบว่า บริษัทฯมีการนำที่ดินที่ได้ถูกเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์บางส่วนมายื่นออกโฉนดที่ดิน ซึ่งเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ที่ดิน จะได้แจ้งความดำเนินคดีกับกรรมการบริษัท ซี พี เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2543 ต่อไป