ไม่สำนึกผิด! ตำรวจกองปราบจับ 2 ผู้ต้องหาชายหญิง ขบวนการค้าใบกระท่อมชายแดนไทย-มาเลย์ ขณะขนใบกระท่อมจากปาดังเบซาร์ ส่งหาดใหญ่ โดยใช้รถเก๋ง 2 คัน ก่อนเสนอเงินเกือบ 2 แสน ติดสินบนให้ปล่อยตัว สุดท้ายโดนหนักหลายกระทง
กำลังตำรวจกองปราบ วางแผนสกัดจับกลุ่มผู้ค้าใบกระท่อมในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย บนถนสายกาญจนวนิช เส้นทางสะเดา-หาดใหญ่ บริเวณไฟแดงสี่แยกบายพาสบ้านไพร เขตเทศบาลเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา หลังจากได้รับรายงานจากสายลับว่า จะมีการขนใบกระท่อมล็อตใหญ่จากพื้นที่ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา ไปส่งที่อำเภอหาดใหญ่ โดยพบรถเก๋ง2คันขับผ่านมา โดยคันแรกเป็นรถเก๋ง โตโยต้า ยาริส สี ขาว ทะเบียน ขท 1634 สงขลา ซึ่งขับผ่านไปก่อนที่รถเก๋ง โตโยต้า วีออส สีบรอนด์ ทะเบียน ขน-8015 สงขลา จะขับตามมา ซึ่งเป็นรถคันที่สายรายงานว่าใช้ขนใบกระท่อม เจ้าหน้าที่จึงได้สกัดจับ โดยมี นายอดุลย์ สะมาแอ อายุ 20 ปี ชาวปาดังเบซาร์ เป็นคนขับ ภายในรถพบใบกระท่อม จำนวน10ถุง น้ำหนักประมาณ 138 กิโลกรัม อัดแน่นมาเต็มคันรถ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเอาไว้
ต่อมา นางอารียา แสละวงค์ หรือเป้า อายุ 40 ปี ชาวปาดังเบซาร์ ได้ขับรถเก๋งคันแรก ที่ดูต้นทางได้โทรศัพท์มาหา นายอดุลย์ เพื่อขอเคลียร์กับตำรวจ พร้อมเสนอเงินจำนวน 180,000 บาท เพื่อให้ขอปล่อยตัว และไม่ดำเนินคดี ซึ่งทางตำรวจจึงซ้อนแผนรับข้อเสนอ โดยนัดแนะรับเงินกันที่ ใกล้แยกไฟแดง บ้านไพร บนถนนสายกาญจนวนิช ก่อนที่นางอารียา จะขับรถเก๋งมากับเพื่อนอีกคนเพื่อนำเงินสดจำนวนดังกล่าวมาส่งให้ตำรวจ แต่ทางตำรวจปฏิเสธ และตลบหลังเข้าจับกุม ส่วนเพื่อนที่นั่งมาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวไป
เบื้องต้น ทางตำรวจได้ควบคุมตัวทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสะเดา เพื่อดำเนินคดี โดยแจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษ(ใบกระท่อม)ไว้จำหน่าย กับนายอดุลย์ และจากการสอบสวน นายอดุลย์ ให้การรับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างขนใบกระท่อมเที่ยวละ 1,000 บาท โดยขนอาทิตย์ละ 2-3เที่ยว ส่วนนางอารียา ถูกแจ้งข้อหา ติดสินบนเจ้าพนักงาน