แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ กรณี 2 แกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง 4 ข้อกล่าวหาคือ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และหลบหนีการคุมตัว
โดยรายงานระบุว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย เรียกร้องทางการไทยยกเลิกข้อกล่าวหาต่อสองแกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย หลังจากที่มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง 4 ข้อกล่าวหาทั้งสองว่า ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และหลบหนีการคุมตัว
แอมเนสตี้ ออกแถลงการณ์จี้ กัมพูชาเร่งสืบสวนคดีหายตัวไปของ วันเฉลิม
แอมเนสตี้ แสดงความเป็นห่วงกรณีผู้จัดกิจกรรม 24 มิ.ย.ถูกคุกคาม
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมสองแกนนำเยาวชนกลุ่มตะวันออกระยองเพื่อประชาธิปไตยและบังคับนำตัวออกไปจากด้านนอกของโรงแรมหนึ่งในจังหวัดระยองก่อนที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึงสถานที่ดังกล่าวในเวลาไม่นาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้แสดงหมายจับในระหว่างการจับกุม และไม่ได้แจ้งข้อหาให้ผู้ประท้วงทั้งสองทราบ
แอมเนสตี้ ชวนลงนามจดหมาย เรียกร้องให้ฮุน เซน สอบสวนการหายตัวไปของวันเฉลิม
ทั้งนี้ ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ยังได้กล่าวแสดงจุดยืนว่า เจ้าหน้าที่ไม่ควรปิดปากประชาชนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างสงบและมีการวางข้อจำกัดที่ไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับการชุมนุมโดยสงบโดยอ้างการควบคุมโรคโควิด-19 มาตรการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ควรเป็นไปอย่างสมเหตุผลและไม่จำกัดสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยขอย้ำให้เจ้าหน้าที่ทบทวนการใช้อำนาจฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้การใช้อำนาจดังกล่าวเป็นการชั่วคราว เป็นกรณีพิเศษ ได้สัดส่วน จำเป็นและไม่เลือกปฏิบัติ และไม่ใช้เพื่อจำกัดสิทธิโดยพลการ