แจงแล้ว! ธปท.และสมาคมธนาคารไทย คืบหน้าปม การตัดเงินผิดปกติ ผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต เสียหายกว่า 130 ล้านบาท
วันนี้ (19 ต.ค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย แถลงความคืบหน้า กรณีการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า ตามที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สมาคมธนาคารไทย ได้ชี้แจงว่า มิได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลจากระบบธนาคาร โดยสาเหตุสำคัญเกิดจากการที่มิจฉาชีพสุ่มข้อมูลบัตร และนำไปสวมรอยทำธุรกรรมผ่านร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศ ที่ไม่มีการใช้ One Time Password (OTP)
โดยตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม มีบัตรที่มีการใช้งานผิดปกติจากเหตุข้างต้นจำนวน 10,700 ใบ โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นรายการใช้จากบัตรเดบิตเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการใช้งานส่วนใหญ่มีจำนวนเงินต่อรายการต่ำ เช่น 1 ดอลลาร์ สรอ. และมีการใช้เป็นจำนวนหลาย ๆ ครั้ง
- บัตรเครดิต 5,900 ใบ 100 ลบ.
- บัตรเดบิต 4,800 ใบ 31 ลบ.
ทั้งนี้ ธนาคารมีระบบตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ โดยแต่ละธนาคารจะกำหนดเพดาน และเงื่อนไขการใช้งานของบัตรตามลักษณะประเภทร้านค้า และประเภทสินค้าแตกต่างกันไป
ทั้งนี้จากข้อมูลข่าวทั้งหมด ทีมข่าว ไบรท์ทูเดย์ (Bright today) สรุปข้อมูลได้ดังนี้
- พบการตัดเงินผิดปกติจากบัตร 10,700 ใบ (1-17 ต.ค.) เป็นบัตรเดบิตและเครดิต อย่างละครึ่ง
- ความเสียหายรวม 130 ล้านบาท
- เป็นการสุ่มยิง bill number, เลขหน้าบัตร, วันหมดอายุ
- เป็นธุรกรรมขนาดเล็ก ไม่ใช้ OTP ซื้อของออนไลน์จากต่างประเทศ
- บัตรเดบิต คืนเงินภายใน 5 วัน หลังยืนยันกับลูกค้าว่าผิดปกติ
- บัตรเครดิต ไม่ตัดเงิน
- ยกระดับการตรวจจับธุรกรรมผิดปกติ ครอบคลุมธุรกรรมขนาดเล็ก “ตั้งแต่บาทแรก” แจ้งเตือนลูกค้าทันที
- หารือกับผู้ให้บริการบัตร ยกระดับการยืนยันตัวตน


