นารี ตัณฑเสถียร อสส.คนที่ 17 แถลงนโยบายหลัก ยกระดับ-ปรับเปลี่ยน-วางรากฐาน-สานต่อนาคต ให้ประชาชนและสังคมได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริง
วันนี้ (12 ตุลาคม 2565) นางสาวนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด คนที่ 17 ได้แถลงนโยบายการบริหารงานหลังได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด โดยมีรองอัยการสูงสุด ผู้ตรวจการอัยการ อธิบดีอัยการ สำนักงานในส่วนกลาง อธิบดีอัยการภาค ทั้ง 9 ภาค เลขาธิการสถาบันนิติวัชร์ เลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้อำนวยการเข้าร่วมรับฟัง โดยการแถลงนโยบายดังกล่าวได้มีการถ่ายทอดสดผ่าน YouTube เพื่อให้ข้าราชการฝ่ายอัยการทั่วประเทศ ตลอดจนผู้สนใจได้ร่วมรับฟัง
นางสาวนารี กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า การบริหารงานที่ได้แถลงในวันนี้ เป็นการนำองค์กร อัยการในฐานะหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมให้เป็นไปอย่างมีทิศทางโดยมีแนวคิด “ปรับฐานราก เปลี่ยนทันโลกสู่สังคมยุติธรรมที่ดีขึ้น : Better Justice” เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธา ความไว้วางใจให้กับประชาชน สังคม และประเทศชาติ ซึ่งในเรื่องดังกล่าวไม่สามารถสร้างโดยลำพังได้เพียงจากการสร้างภาพลักษณ์เท่านั้น แต่จะต้องสร้างจากการทำงานที่มีประสิทธิภาพของข้าราชการทั้งที่เป็นพนักงานอัยการ พนักงานธุรการ และผู้ปฏิบัติงานทุกคนในสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ประชาชนและสังคมได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริง และสิ่งที่สำคัญ คือ “คุณธรรมจริยธรรม ความรู้ ความสามารถและความเชี่ยวชาญของบุคลากรในองค์กรภายใต้คุณภาพชีวิตที่ดีจากสิ่งแวดล้อมที่ดี”

สำหรับนโยบายการบริหารงานของนางสาวนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด ที่จะใช้เป็นนโยบายหลัก 4 ด้าน คือ “ยกระดับ – ปรับเปลี่ยน – วางรากฐาน – สานต่ออนาคต”
- ยกระดับการอำนวยความยุดิธรรม รักษาผลประโยชน์ของรัฐ คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมาย บนพื้นฐานของความร่วมมือและเทคโนโลยี อาทิ การพัฒนาช่องทางการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชนที่ง่าย สะดวกรวดเร็ว ทุกที่ทุกเวลา ผ่านเทคโนโลยีที่รองรับ โดยสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี (Application) ที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อบริการประซาชนให้เข้าถึงข้อมูลได้โดยสะดวกและรวดเร็วขึ้น รวมถึงการสร้างกระบวนการเชิงรุกในการส่งเสริมให้ประชาชนรู้เท่าทันความเป็นไปของสังคมในมิติต้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือทั้งในระหว่างหน่วยงานรัฐที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย และสร้างเครือข่ายภาคประชาชน รวมถึงการยกระดับการรักษาและพิทักษ์ผลประโยชน์ของรัฐและประชาชนด้วยความเป็นมืออาชีพและรวดเร็ว
- ปรับเปลี่ยนและพัฒนางานขององค์กรอัยการ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และความหลากหลายทางสังคม เพื่อให้เกิดความยุติธรรมสำหรับทุกฝ่ายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นที่พึ่งทางกฎหมายลำดับแรกให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหา ลดขั้นตอน และลดระยะเวลาในการดำเนินการ บนพื้นฐานประโยชน์ของประซาชนเป็นสำคัญ รวมถึงจัดให้มีอุปกรณ์เพื่อรองรับการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำงานในทุกระดับชั้นเพื่อตอบสนองการสื่อสารกับทั้งภาครัฐและเอกชน
- วางรากฐานเพื่อสร้างระบบและกลไกในการเข้าถึงความยุติธรรมสำหรับทุกคน วางระบบนิเวศองค์กร (eco-system) ที่เหมาะสมกับการทำงาน และสร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะทางวิชาชีพ อาทิ การวางรากฐานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ในการทำงานและสามารถบูรณาการเชื่อมต่อข้อมูลกับหน่วยงานอื่นในกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเป็นระบบ โดยสนับสนุนการพัฒนาและปรับปรุงระบบเทคโนโลยีที่สำคัญ เพื่อเป็นการวางรากฐานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อประโยชน์หรือโอกาสในการเชื่อมต่อกับ
หน่วยงานอื่นในกระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาความพร้อมของบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกและสังคม รวมถึงวางรากฐานระบบนิเวศองค์กร (eco-system) ที่ส่งเสริมการทำงานของบุคลากรในสำนักงานอัยการสูงสุดทั้งในรูปแบบของปัจจัยในการทำงานและสวัสติการที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง เพื่อสงต่อองค์ความรู้ที่จะนำสำนักงานอัยการสูงสุดสู่การเป็นองค์กรของนักฎหมายเพื่อสังคม - สานต่ออนาคต โดยสร้างกลไก เครื่องมือ และแนวทางการพัฒนาบนฟื้นฐานการบริหาร สร้างความยุติธรรมที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน (Better Justice) อาทิ ผลักดันให้มีการทบทวนและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความยุติธรรมและการทำงานของพนักงานอัยการเพื่อสร้างประสิทธิผลของความยุติธรรม พร้อมทั้งส่งเสริมและผลักดันระบบการสอบสวนคดีอาญาที่มีการตรวจสอบและถ่วงดุลเพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย






