วสันต์ ตัวละครใหม่ โผล่คดี บ่อนพระราม 3 ยอมรับเป็นเจ้าของบ่อนและผู้จัดให้มีการเล่นพนัน ด้าน ผบช.น. ยืนยัน ดำเนินคดี บอย บ้านครัว ตามหลักฐานที่ปรากฎ
9 ส.ค. 63 พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เป็นประธานเรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีที่เกี่ยวกับบ่อนการพนันย่านพระราม 3 ใน 3 สำนวนคดี ประกอบด้วย คดีฆาตกรรม, คดีการทำลายพยานหลักฐาน และคดีที่เกี่ยวข้องกับการพนัน
โดย พลตำรวจโทภัคพงศ์ เปิดเผยก่อนเข้าร่วมการประชุมว่า ผลการสืบสวนสอบสวนคืบหน้าไปมาก โดยในสำนวนคดีฆาตกรรม อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุ เพื่อนำมายืนยันว่าผู้ก่อเหตุมีกี่คน หลังทราบผลการตรวจในเบื้องต้นว่าไม่ได้มีแค่ผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจอาวุธปืน เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับสภาพที่เกิดเหตุ
อ่านข่าว เจอเพียบ! อุปกรณ์เล่นพนัน บ่อนพระราม 3 ซุกหลังตึกหลังบ่อน
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า นายบอย ไม่น่าใช่ผู้ต้องหาตัวจริง ยืนยันว่าตำรวจทำคดีไปตามหลักฐานที่ปรากฎ และหลักฐานมีน้ำหนักมากพอจนศาลอนุมัติหมายจับ
ขณะที่ คดีการเคลื่อนย้ายของกลาง ขณะนี้พิสูจน์บุคคลที่เกี่ยวข้องได้ครบทั้ง 6 คนแล้ว โดยยังเหลืออีก 5 คน ได้ให้ฝ่ายสืบสวนไปติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนฮาร์ดดิสก์บรรจุข้อมูลกล้องวงจรปิด ที่พบว่าถูกถอดเก็บและทำให้เสียหายไป กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บไปกู้ข้อมูลแล้ว โดยต้องรอผลรายงานว่าจะสามารถกู้ข้อมูลออกมาได้หรือไม่
สำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับการพนัน จากการตรวจสอบหนังสือสัญญาเช่าช่วงอาคาร พบว่ามีชื่อของ นายวสันต์ อยู่ในสัญญา ซึ่งยอมรับว่าตนเองเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนัน แต่จากการสืบสวนตำรวจไม่เชื่อว่า นายวสันต์ เป็นผู้ดูแลบ่อนตัวจริง ซึ่งฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ส่วน “เฮียตี้” ที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ นำข้อมูลมาให้ตำรวจ ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นเจ้าของบ่อนตัวจริง แต่ได้ให้ตำรวจไปติดตามตัวมาสอบสวนแล้ว ทั้งนี้ยังต้องสอบสวนพยานอีกหลายปาก แม้ว่าพยานบางปากจะเป็นผู้ต้องหาในคดีหนึ่ง แต่ก็อาจเป็นประจักษ์พยานอีกคดีได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับวันนี้ที่เป็นวันครบกำหนดในการติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามคำสั่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะพิจารณาว่าการทำหน้าที่ของตน บกพร่องหรือไม่