เฉลิมชัย ลงพื้นที่เมืองกาญฯ ติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง และร่วมเป็นสักขีพยานการส่งมอบฝายบ้านทุ่งมะขามเฒ่า ให้อปท.รับไปดูแล
วันนี้ (11 พ.ย. 62) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานการแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยมี ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) นายมนัส สุดพวง ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 13 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ ณ บริเวณลานวัฒนธรรมวัดอินทาราม(วัดหนองขาว) ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง และบริเวณฝายบ้านทุ่งมะขามเฒ่า ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างสถานีสูบน้ำหนองขาว-หนองโรง พร้อมระบบส่งน้ำ ประกอบด้วย สถานีสูบน้ำจำนวน 2 แห่ง และคลองส่งน้ำความยาว 7 กิโลเมตร สามารถส่งน้ำให้ราษฎรกว่า 1,591 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรกว่า 11,000 ไร่ ในพื้นที่ต.หนองขาว แต่ด้วยสาเหตุที่มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น จึงทำให้มีความต้องการใช้น้ำมากขึ้นตามไปด้วย กรมชลประทาน จึงมีแผนการดำเนินโครงการสนับสนุนแหล่งน้ำในพื้นที่ ต.หนองขาว จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ โครงการแก้มลิงบ้านหลุมลำพัน โครงการปรับปรุงสถานีสูบน้ำหนองขาว-หนองโรง จุดที่ 2 พร้อมระบบส่งน้ำ โครงการฝายห้วยหนองเกตุ โครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านหนองขาว 1 และ โครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบบ้านหนองขาว 2 หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้ง 5 โครงการ คาดว่าจะช่วยเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้กว่า 3,000 ไร่ พื้นที่รับประโยชน์กว่า 1,010 ไร่ และยังสามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 80,000 ลูกบาศก์เมตร
จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางต่อไปยัง ฝายบ้านมะขามเฒ่า ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบฝายบ้านมะขามเฒ่า ซึ่งกรมชลประทานได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมใช้งานให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ ให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลกลอนโด อำเภอด่านมะขามเตี้ย รับไปดูแล บำรุงรักษา และบริหารจัดการน้ำ ตามภารกิจถ่ายโอนงานชลประทานขนาดเล็กให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
สำหรับโครงการฝายบ้านทุ่งมะขามเฒ่า ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย ดำเนินการก่อสร้างโดย โครงการก่อสร้าง สำนักงานชลประทานที่ 13 มีลักษณะเป็นฝายคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 15 เมตร ยาว 39 เมตร สูง 5.50 เมตร ความสูงสันฝาย 3 เมตร พร้อมกับขุดลอกลำห้วยหน้าฝาย ความยาว 800 เมตร สามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 30,000 ลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับประโยชน์กว่า 450 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 119 ครัวเรือน กรมชลประทาน ได้สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำของราษฎรในพื้นที่ ปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว จึงได้ทำการส่งมอบฝายแห่งนี้ ให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลกลอนโด เป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการต่อไป ภายใต้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ชลประทาน เพื่อให้ฝายแห่งนี้สร้างประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด
ดร.ทองเปลวฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า “รัฐบาลมีความเป็นห่วงราษฎรทุกภาคส่วน ท่านนายกรัฐมนตรี และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยคำนึงถึงประโยชน์สุขของราษฎรเป็นสำคัญ กรมชลประทาน เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ดูแลเรื่องน้ำ ซึ่งในระยะนี้มีปริมาณน้ำต้นทุนอยู่อย่างจำกัด จึงขอให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ำเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า เพื่อลดความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำในอนาคต”