สินเชื่อธอส ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่าน 10 มาตรการ รวม 443,220 ล้านบาท เตรียมสินเชื่ออีก 20,000 ล้านบาท สำหรับคนในครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบ ดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี คงที่ 2 ปีแรก กับโครงการบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยหลังจัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิด-19 รวม 10 มาตรการ ทั้งการลดดอกเบี้ย พักชำระเงินต้น พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ขยายระยะเวลา และยกดอกเบี้ย มีลูกค้ารับความช่วยเหลือรวม 446,747 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 443,220 ล้านบาท และเตรียมประกาศขยายระยะเวลาคความช่วยเหลือเพิ่มเติมไปถึง 31 ตุลาคม 2563

ล่าสุดประกาศจัดทำ “โครงการ ธอส. ปันน้ำใจ เราไม่ทิ้งกัน” ผ่าน 2 มาตรการทั้งด้านการเงิน และ CSR ประกอบด้วย สินเชื่อ“โครงการบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน” วงเงิน 20,000 ล้านบาท ให้กู้สำหรับบุคคลในครอบครัวของ ผู้ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการเงินเยียวยา 5,000 บาท หรือบุคคลในครอบครัวของลูกค้า ธอส. ที่ลงทะเบียนเข้าร่วม 10 มาตการช่วยเหลือของ ธอส. อัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี นาน 2 ปีแรก ให้กู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 ธันวาคม 2563

ส่วนกิจกรรม CSR จัดทำ“โครงการบ้าน ธอส. ของกินของใช้ ปันน้ำใจเราไม่ทิ้งกัน” เพื่อยกระดับชุมชน เสริมสร้างวัฒนธรรมแบ่งปันสุข ด้วยการจัดทำ “บ้าน ธอส.” บริเวณหน้าที่ทำการสาขา ธอส. กว่า 200 แห่งทั่วประเทศ สำหรับใส่ของกินของใช้เพื่อให้ผู้ที่เดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แบ่งปันไปใช้-บริโภค

นายกมลภพ วีระพละ รองกรรมการผู้จัดการ และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ประเทศไทยเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยขยายวงกว้างมากขึ้นต่อเนื่อง ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ได้เข้ามามีส่วนสนับสนุนนโยบายของ ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ต้องการให้ ธอส. บรรเทาผลกระทบให้กับลูกค้าและฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจ และนายปริญญา พัฒนภักดี ประธานกรรมการ ธอส. ได้มีนโยบายให้ ธอส. ตอบสนองนโยบายดังกล่าว อย่างเร่งด่วน

โดยคณะกรรมการธนาคารได้มีมติเห็นชอบมาตรการต่าง ๆ ที่ทยอยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นมา ทั้งการลดดอกเบี้ย พักชำระเงินต้น พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาชำระหนี้ และยกดอกเบี้ย ตาม“มาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19)” และ “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ” รวมทั้งสิ้น 10 มาตรการ ซึ่งให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริงสามารถเลือกลงทะเบียนเข้ามาตรการที่เหมาะสมกับผลกระทบของตนเอง เพื่อลดภาระรายจ่ายและรักษาที่อยู่อาศัยให้ยังคงเป็นของตนเอง โดย ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2563 เวลา 18.00 น. มีจำนวนลูกค้าได้รับความช่วยเหลือรวมทั้งสิ้น 446,747 บัญชี วงเงินสินเชื่อรวมกว่า 443,220 ล้านบาท ประกอบด้วย

มาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19)
มาตรการที่ 1 : ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 6 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เท่ากับ 0.01% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีน มีลูกค้าเข้ามาตรการ 861 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 997 ล้านบาท
มาตรการที่ 2 : ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 4 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงเหลือ 1.00% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่รายได้ต่อเดือนได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวในประเทศกลุ่มเสี่ยง มีลูกค้าเข้ามาตรการ 14,022 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 14,607 ล้านบาท

โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ
มาตรการที่ 1 : พักชำระเงินต้น 3 เดือน และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท มีลูกค้าเข้ามาตรการ 61,578 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 58,754 ล้านบาท
มาตรการที่ 2 : พักชำระเงินต้น 1 ปี และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน เมื่อครบ 1 ปี สามารถแจ้งความประสงค์ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระเพิ่มได้นานสูงสุดอีก 10 ปี มีลูกค้าเข้ามาตรการ 60,134 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 74,124 ล้านบาท
มาตรการที่ 3 : พักชำระเงินต้น 6 เดือน พร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน มีลูกค้าเข้ามาตรการ 28,998 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 27,913 ล้านบาท
มาตรการที่ 4 : ลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน 6 เดือน สำหรับลูกค้าที่อยู่ระหว่างใช้อัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหรืออยู่ในสถานะกฎหมาย มีลูกค้าเข้ามาตรการ 16,928 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 15,719 ล้านบาท
มาตรการที่ 5 : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 4 เดือน สำหรับสำหรับลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท และรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 35,000 บาท ธนาคารจะยกดอกเบี้ยที่พักชำระให้ลูกค้าที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการเมื่อสิ้นสุดระยะเวลากู้ตามสัญญา มีลูกค้าเข้ามาตรการ 217,589 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 193,735 ล้านบาท
มาตรการที่ 6 : พักชำระเงินต้น 4 เดือน ลดดอกเบี้ยเหลือ 1.00% ต่อปี สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานด้านสาธารณสุขและสถานพยาบาล มีลูกค้าเข้ามาตรการ 7,588 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 10,600 ล้านบาท
มาตรการที่ 7 : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน สำหรับลูกค้าสินเชื่อประเภทแฟลตและสินเชื่อพัฒนาโคงการที่อยู่อาศัย(Pre Finance) มีลูกค้าเข้ามาตรการ 494 บัญชี วงเงินสินเชื่อ 2,979 ล้านบาท
มาตรการที่ 8 : พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน สำหรับลูกค้าที่เคยลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ เข้ามาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6 มีลูกค้าเข้ามาตรการ 38,555 วงเงินสินเชื่อ 43,792 ล้านบาท

“ปัจจุบันธนาคารยังคงเปิดให้ลูกค้าที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สามารถลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 1 พักชำระเงินต้น 3 เดือน และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือนได้ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ส่วนลูกค้าที่เคยลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6 ไปแล้วก็ยังสามารถเปลี่ยนมาพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือนได้เช่นกันโดยการลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 8 ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2563 ซึ่งสามารถดำเนินการได้ผ่าน Application : GHB ALL ทั้งนี้ ธอส. ยังเตรียมขยายระยะเวลาความช่วยเหลือ ตามมาตรการต่าง ๆ ให้กับลูกค้าที่ยังคงได้รับผลกระทบโดยอัตโนมัติไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ซึ่งจะมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง” นายกมลภพ กล่าว

รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ยังกล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการร่วมเดินหน้าฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจภายหลังปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น คณะกรรมการธนาคารจึงมีมติเห็นชอบให้จัดทำ “โครงการ ธอส. ปันน้ำใจ เราไม่ทิ้งกัน” ผ่าน 2 มาตรการทั้งทางด้านการเงิน และด้าน CSR

ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ “โครงการบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน” (วงเงิน 20,000 ล้านบาท) ให้กู้สำหรับบุคคลในครอบครัวของประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ตามโครงการเราไม่ทิ้งกันของรัฐบาล(มาตรการเงินเยียวยา 5,000 บาท จำนวน 3 เดือน) หรือบุคคลในครอบครัวของลูกค้า ธอส. ที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วม “มาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19)

รวมถึงมาตรการบรรเทาผลกระทบให้กับลูกค้าทั้ง 8 มาตรการตาม “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ” ผู้กู้จะได้รับอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.99% ต่อปี นานถึง 2 ปีแรก ปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ย 3.75% ต่อปี ปีที่ 4 อัตราดอกเบี้ย MRR-2% ต่อปี และปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ กรณีลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR–1.00% ต่อปี และกรณีรายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส.เท่ากับ 6.150% ต่อปี)

วัตถุประสงค์ให้กู้เพื่อซื้อ(ครอบคลุมทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง) ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยพร้อมกับการขอกู้ตามวัตถุประสงค์หลัก(ซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย และซ่อมแซม) วงเงินให้กู้ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหลักประกัน รวมถึงได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ คิดค่าประเมินราคาหลักประกันในอัตราพิเศษ และให้ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 ธันวาคม 2563

“อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำในปัจจุบัน ถือเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่ต้องการมีบ้านเป็นอย่างมาก ธอส. จึงได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1.99% ต่อปี ถือเป็นการแบ่งเบาภาระในการผ่อนชำระของลูกค้าโดยตรง อาทิ กรณีกู้ 1 ล้านบาท จะผ่อนชำระ 2 ปีแรกเพียง 3,300 บาทต่อเดือนเท่านั้น นอกจากนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับวงเงินกู้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้มีบ้าน ธอส. จึงกำหนดสัดส่วนความสามารถชำระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio หรือ DSR) ในกรณีลูกค้ารายย่อยเพิ่มเป็นสูงสุดไม่เกิน 50% ของรายได้สุทธิต่อเดือน

โดยถือเป็นโครงการที่ครอบคลุมทั้งคนในครอบครัวของผู้ที่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ที่ปัจจุบันมีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวนกว่า 15 ล้านราย และครอบครัวของลูกค้า ธอส. ที่ลงทะเบียนเข้ามาตรการช่วยเหลือจากปัญหาโควิด-19 มากกว่า 4 แสนราย จึงเชื่อว่าโครงการบ้าน ธอส. คนไทยไม่ทิ้งกัน จะสนับสนุนให้ภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ เร็วขึ้น” นายกมลภพ กล่าว

ขณะที่มาตรการด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ CSR ของ ธอส. จะดำเนินการภายใต้แนวคิด“ไม่ใช่แค่หน้าที่ แต่คือความห่วงใย” ด้วยการจัดทำ “โครงการบ้าน ธอส. ของกินของใช้ ปันน้ำใจเราไม่ทิ้งกัน” โดยมีเป้าประสงค์เพื่อยกระดับชุมชน เสริมสร้างวัฒนธรรมแบ่งปันสุข คลายทุกข์ ให้คนไทยช่วยเหลือดูแลกันและกัน ด้วยการจัดทำ “บ้าน ธอส.” สำหรับใส่ของกินของใช้เพื่อให้ผู้ที่เดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แบ่งปันไปใช้-บริโภค

โดยจะตั้งไว้บริเวณหน้าที่ทำการสาขา ธอส. กว่า 200 แห่งทั่วประเทศภายในเดือนมิถุนายน 2563 และจะจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ชุมชนและเด็กนักเรียนใกล้เคียงสาขาได้มีส่วนร่วมกับโครงการต่อไป ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ธนาคารได้จัดทำ โครงการ “ร้อยพลังเล็ก สู่ล้านพลังยิ่งใหญ่ โดย ธอส.” ด้วยการประดิษฐ์สายคล้องหน้ากากอนามัย 1,000,000 ชิ้น

โดยมีผู้บริหารธนาคาร ผู้ปฏิบัติงานของ ธอส.และหน่วยงานพันธมิตร ผู้สูงอายุหรือผู้พิการในความดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนที่ธนาคารให้การสนับสนุนร่วมกันประดิษฐ์ ระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 15 มิถุนายน 2563 เพื่อส่งมอบให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชน เพื่อบรรเทาปัญหาการบาดเจ็บจากการถูกสายหน้ากากอนามัยกดทับเป็นเวลานานระหว่างใส่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

“วอนฮี ILLIT” พรีเซ็นเตอร์เครื่องดื่มสุดฮิต ที่พร้อมมาทำให้ซัมเมอร์จี๊ดจ๊าด!

เอาแล้วไงสดใสจนได้งานเข้ามารัว ๆ สำหรับสาวสวย “วอนฮี ILLIT” ที่ได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เครื่องดื่มสุดฮิต “Pocari Sweat”

กัมพูชา เคลมอีก! ลาบูบู้ LABUBU แท้จริงมาจากตำนานของพี่เขา

ชาวเน็ตกัมพูชา ไม่ตกกระแส! แห่ตามเคลม “ลาบูบู้ LABUBU” มาจากรูปแกะสลักปีศาจ “หน้ากาล” วัฒนธรรมของกัมพูชา ไม่เชื่อ! เจอได้ตามทางเข้าวัด

สคบ.เตือนภัย ‘พัดลมคล้องคอ’ อันตราย ใช้ไปนาน ๆ เสี่ยงโรคมะเร็ง

หยุดใช้ดีที่สุด! สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เตือน ‘พัดลมคล้องคอ’ มีตะกั่วเข้มข้นเป็นอันตรายต่อผิวหนังเสี่ยงเป็นมะเร็งสูง

ครั้งนี้ไม่ยอม! เจนนี่ รัชนก ถูกคนใกล้ตัวในคราบโจร ขโมยเงินครึ่งล้าน

ไม่ยอม! เจนนี่ รัชนก ถูกคนใกล้ตัวในคราบโจร ขโมยเงินในบ้านจำนวนครึ่งล้าน ลั่น ถ้ายังไม่คืนรู้เรื่องแน่

ป่วยนับสิบ! คนสุพรรณ ติดเชื้อไวรัสโรต้า หลังร่วมปาร์ตี้โฟมสงกรานต์

ปาร์ตี้โฟมสงกรานต์ เป็นเหตุ! ทำคนสุพรรณ ติดเชื้อไวรัสโรต้า หามตัวส่ง รพ. กว่า 50 ชีวิต พบมีอาการ มีไข้ ปวดท้อง อาเจียน และท้องเสีย

เซอร์ไพร์ส! Thailand Music Countdown บุกวงการ T-POP พบกันเร็วๆ นี้

เซอร์ไพร์สกันสุด ๆ เมื่อตอนนี้ทาง True CJ Creations ได้กำลังเตรียมรายการ Thailand Music Countdown มาให้ศิลปิน T-POP โชว์ของกันตอนนี้แล้ว!
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า