บช.ก.ร่วม สบส.- อย.- สสจ. ปทุมธานี บุกจับ คลีนิกเถื่อน ลักลอบให้บริการตรวจโควิด ผงะ เจอเลือดและปัสสาวะ เก็บไม่ถูกหลัก
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ พบเบาะแสการเปิดคลินิกเถื่อน ซึ่งให้บริการในลักษณะห้องปฏิบัติการตรวจสารคัดหลั่งของเชื้อไวรัสโควิด 19 (COVID 19) ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) และออกใบรับรองผลในนามคลินิกให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งอาจไม่ได้มาตรฐาน สุ่มเสี่ยงให้เกิดการระบาดของโรค

หลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ณ คลินิกเทคนิคแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พบว่า คลินิกดังกล่าวให้บริการตรวจคัดกรองโรคโควิด 19 แก่ประชาชนด้วยชุดตรวจ ATK รายละ 500 บาท และออกใบรับรองผลในนามคลินิก โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการ
ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนเบื้องต้น (Antigen test kit : ATK ได้ถูกนำมาใช้ในการตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกเพื่อคัดกรองการติดเชื้อโควิด 19 ในเบื้องตัน ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบตรวจหาแอนติเจนตัวยตนเอง (home use) และแบบใช้โดยบุคลากรทางการแพทย์ (professional use) เท่านั้น ซึ่งทั้ง 2 แบบ ต่างกันที่อุปกรณ์และตำแหน่งการเก็บตัวอย่าง
กรณีชุดตรวจด้วยตนเองจะเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกด้านหน้า (nasal swab) หรือน้ำลาย (saliva) ส่วนชุดตรวจสำหรับบุคลากรทาง การแพทย์จะเก็บตัวอย่างจากเยื่อบุด้านหลังโพรงจมูก (Nasopharyngeal swab) ไม้เก็บตัวอย่างจะมีขนาดยาวกว่า ต้องใช้เทคนิคในการเก็บตัวอย่างเพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำและไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพบว่า ชุดทดสอบที่ใช้ตรวจหาแอนติเจนเป็นแบบตรวจด้วยตนเอง (home use) ซึ่งได้รับอนุญาตจาก อย.อย่างถูกต้อง

แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รวมถึงผู้ให้บริการและผู้ช่วยมิใช่แพทย์ หรือนักเทคนิคการแพทย์แต่อย่างใด และจากการตรวจสอบสถานที่แห่งนี้ พบว่ามีการจัดเก็บตัวอย่างเลือดและตัวอย่างปัสสาวะหลายพันชิ้น ที่ได้จากการออกไปรับตรวจตามโรงงานหรือบริษัทต่างๆ มาเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นโดยไม่ถูกสุขลักษณะ
เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย คือ น.ส.วาสิตา (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดูแลสถานที่ และ น.ส.พรนภา (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ให้บริการตรวจขณะเข้าทำการตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ในความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาต (คลินิกเถื่อน) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาในความผิดตามพระราชบัญญัติเทคนิคการแพทย์ พ.ศ.2547 ฐานประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมยึดของกลางที่ใช้ประกอบการกระทำความผิด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
