เหมือนหรือแตกต่าง ส่องกฎหมายการบังคับใช้ คาร์ซีท – Car Seat ในต่างประเทศ หลังไทยประกาศเด็กต่ำกว่า6ปี ต้องนั่งคาร์ซีท
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ทางด้านเว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบกซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมจากเดิม เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 บัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ซึ่งหนึ่งในนนั้นคือ
คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
ทั้งนี้หลังจากการประกาศดังกล่าวได้เผยแพร่ออกมา กระแสสังคมแตกออกมาเป็นหลายเสียง ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้วันนี้ BRIGHT TODAY ซึ่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายบังคับใช้ คาร์ซีท – Car Seat ในต่างประเทศ ว่าส่วนใหญ่แล้วไปในทิศทางไหนกันบ้าง ซึ่งคาร์ซีทเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อความปลอดภัย ลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตของเด็ก

สหราชอาณาจักร
- เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือมีความสูงน้อยกว่า 4 ฟุต 5 นิ้ว / 135 เซนติเมตร ต้องนั่งคาร์ซีทหรือ Booster Seat
- เด็กที่มีอายุมากกว่า 12 ปี หรือมีความสูงมากกว่า 4 ฟุต 5 นิ้ว / 135 เซนติเมตร สามารถใช้ที่นั่งในรถยนต์ได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องใช้Booster Seat
ฝรั่งเศส
- เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปีและมีความสูงน้อยกว่า 135 เซนติเมตรต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กที่ได้รับการรับรองจาก UN R44/R129
- เด็กที่มีความสูงระหว่าง 135 ถึง 150 เซนติเมตร สามารถใช้ Car Seatแบบ Booster ได้หากทางคุณพ่อคุณแม่ต้องการซึ่งเป็นเบาะนั่งเสริมที่ติดตั้งได้โดยยึดกับเบาะหลังของรถยนต์
- หากในรถยนต์ไม่มีเบาะหลังหรือไม่มีเข็มขัดนิรภัยในเบาะหลัง คุณพ่อคุณแม่สามารถนำคาร์ซีทแบบ Rear-facing Seat(หันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์) มาไว้ที่นั่งหน้ารถยนต์ได้
- ไม่จำเป็นต้องใช้คาร์ซีทในแท็กซี่
เยอรมนี
- ต้องมีสายรัดนิรภัยสำหรับเด็กที่ได้รับอนุมัติตาม UN R44/R129สำหรับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 12 ปีหรือส่วนสูงน้อยกว่า 150 เซนติเมตร
- เด็กต้องใช้คาร์ซีทในแท็กซี่
สหรัฐอเมริกา
- แต่ละรัฐจะมีกฎหมาย Car Seat สำหรับเด็กและนักเดินทางที่ต้องปฏิบัติแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ
- ตัวอย่างเช่นรัฐเซาท์ดาโคตากำหนดให้มีคาร์ซีทสำหรับเด็กสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปีและมีน้ำหนักน้อยกว่า 40 ปอนด์ในขณะที่รัฐเทนเนสซีกำหนดให้มี Car Seat สำหรับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า8ปีและรวมถึงมีข้อกำหนดสำหรับคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat) แบบหันไปทางหน้ารถยนต์ (Forward-Facing Seat)และแบบเบาะนั่งเสริม (Booster)
- ในรัฐส่วนใหญ่การเดินทางบนแท็กซี่ได้รับการยกเว้นจากกฎหมายคาร์ซีท ยกเว้นรัฐแคลิฟอร์เนีย
แคนาดา
- ในแคนาดาแต่ละรัฐจะมีกฎหมาย Car Seat และ Booster Seat ที่ต้องปฏิบัติแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ
- รัฐอัลเบอร์ตากำหนดให้ใช้คาร์ซีทกับเด็กอายุ 6 ปี หรือมีน้ำหนักอย่างน้อย 18 กิโลกรัม (40 ปอนด์) ส่วนกฎหมายที่นั่งเสริมยังไม่มี
- รัฐบริติชโคลัมเบียกำหนดให้คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rear-Facing) กับเด็กอายุอย่างน้อย 1 ปี หรือมีน้ำหนัก 9 กิโลกรัม (20 ปอนด์) ส่วนกฎหมายที่นั่งเสริมให้ใช้จนเด็กสูงถึง 145 เซนติเมตรหรืออายุ 9 ปี
ญี่ปุ่น
- กฎหมายของญี่ปุ่นไม่ได้เข้มงวดเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ประเภทของ Car Seat ที่ใช้และตำแหน่งที่นั่งมากนัก แต่กฎหมายมีแนวทางให้ปฏิบัติตาม โดยให้ใช้คาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลัง (Rear-Facing Car Seat) จนกว่าเด็กจะอายุครบ 2 ปี หรือมีน้ำหนักไม่เกิน 9 กิโลกรัม (20 ปอนด์)
- ส่วนคาร์ซีทแบบหันไปทางหน้ารถยนต์ (Forward Facing Car Seat) ให้ใช้สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี หรือมีน้ำหนักไม่เกิน 18 กิโลกรัม (40 ปอนด์) และเบาะเสริม ( Booster Seat) สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี และมีน้ำหนักไม่เกิน 36 กิโลกรัม (80 ปอนด์)
ฟิลิปปินส์
- Car Seat ที่ได้รับอนุญาตจะต้องได้รับเครื่องหมายมาตรฐานของประเทศฟิลิปปินส์ โดยคาร์ซีทประเภทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat) และแบบหันไปทางหน้ารถยนต์ (Forward-Facing Seat) ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีใช้ ส่วนน้ำหนักและส่วนสูงของเด็กตามที่ผู้ผลิตระบุ
- ส่วนคาร์ซีทประเภทเบาะนั่งเสริม (Booster) บังคับใช้กับเด็กไม่เกินอายุไม่เกิน 12 ปี และส่วนสูงไม่เกิน 150 เซนติเมตร
- ค่าปรับกรณีฝ่าฝืนโดยไม่ได้ให้เด็กใช้ Car Seat หรือเบาะนั่งเสริมจะถูกปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 เปโซสำหรับความผิดครั้งแรก และ 2,000 เปโซสำหรับความผิดครั้งที่สอง และ 5,000 เปโซสำหรับความผิดครั้งที่สาม นอกจากนี้ยึดใบอนุญาตขับรถยนต์ 1 ปี ในกรณีหากพบว่ามีการปลอมแปลงเครื่องหมายมาตรฐานฟิลิปปินส์จะถูกปรับเป็นเงิน 50,000 – 100,000 เปโซ
- ไม่ต้องใช้คาร์ซีทในรถแท็กซี่
มาเลเซีย
- กฎหมายฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม 2020 โดยอนุญาตให้ใช้คาร์ซีทประเภทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat)กับเด็กเล็กอายุไม่เกิน 18 เดือน หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 29 ปอนด์
- คาร์ซีทแบบหันไปทางหน้ารถยนต์ (Forward-Facing Seat) ใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 4 ปี หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 40 ปอนด์ และเบาะนั่งเสริม (Booster) ใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 7 ปี และส่วนสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะเสียค่าปรับ 2,000 ริงกิต
- ไม่ต้องใช้คาร์ซีทในรถแท็กซี่
สิงคโปร์
- อนุญาตให้ใช้คาร์ซีทประเภทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์ (Rear-Facing Seat)กับเด็กเล็กอายุไม่เกิน 9 เดือน หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 22 ปอนด์ ส่วนคาร์ซีทแบบหันไปทางหน้ารถยนต์(Forward-Facing Seat) ใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 4 ปี หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 39 ปอนด์ และเบาะนั่งเสริม (Booster) ใช้กับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 55 ปอนด์ และส่วนสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ในกรณีที่ผู้ปกครองไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะเสียค่าปรับสูงถึง 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์และจำคุก 3 เดือน
- ไม่ต้องใช้คาร์ซีทในรถแท็กซี่ เพราะแท็กซี่ได้รับการยกเว้นด้วยกฎหมายว่าด้วยการควบคุมเด็ก
- องค์การสหประชาชาติได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก โดยออกคำสั่งห้ามที่นั่งเสริมแบบไม่มีพนักพิงสำหรับเด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 22 กก. และสูงต่ำกว่า 125 เซนติเมตร
ขอบคุณข้อมูล – www.britaxthailand.com