จากกรณี คดีน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่ได้หายตัวไปจากหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกค้นหา ซึ่งในเวลาต่อมา พบว่าน้องชมพู่เสียชีวิต ภายในป่าบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพักเพียง 4 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2563
คดีดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก ตำรวจต้องลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูล สอบปากคำพยานหลายปาก และหลักฐานเพื่อตามจับตัวฆาตกร ขณะที่ลุงพล ผู้ต้องสงสัยในเวลานั้นได้รับการสนใจทั้งจากสื่อมวลชนและประชาชน มีการทำข่าวติดตามชีวิตและความเคลื่อนไหวของลุงพลอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ลุงพลกลายเป็นคนดังประจำบ้านกกกอก จนกระทั่งถึงวันที่ศาลได้ออกหมายจับลุงพล หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ โดยในวันนี้ไบร์ท ทูเดย์จึงได้รวบรวมไทม์ไลน์ของคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ดังนี้
วันที่ 11 พ.ค.63
น้องชมพู่ ได้หายตัวไปอย่างปริศนา ตั้งแต่ช่วงเช้า ในเวลานั้น น้องชมพู่อยู่กับสะดิ้ง ผู้เป็นพี่สาว หลังน้องชมพู่หายตัวไปพ่อแม่ และชาวบ้านได้กันออกตามหา จนถึงวันที่ 14 พ.ค.63 พร้อมนำร่างทรงมาประกอบพิธีตามความเชื่อ เพื่อขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้หาน้องชมพู ให้เจอ
วันที่ 14 พ.ค.63
ในช่วงบ่าย ยายตุน ชาวบ้านจ.สกลนคร อายุ 70 ปี ได้เดินขึ้นไปเก็บเห็ด ในพื้นที่ป่าเทือกเขาภูพานน้อย เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล และได้แจ้งเบาะแสว่า พบรองเท้าเด็กสีเขียว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดที่พบรองเท้า และศพ น้องชมพู อยู่ในสภาพเปลือยกาย ห่างจากจุดพบรองเท้า ประมาณ 5 เมตร โดยในเวลานั้นยังไม่สามารถยืนยันว่ามีการข่มขืนหรือไม่ เนื่องจากต้องรอผลการชันสูตร
วันที่ 15 พ.ค.63
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ได้นำศพ น้องชมพู่ ส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เบื้องต้น มีการสันนิษฐานว่า น้องชมพู่ ไม่ได้พลัดหลงป่าหรือเข้าไปในป่าเพียงคนเดียว แต่เชื่อว่ามีคนนำทางไปถึงจุดเกิดเหตุ และยังไม่พบหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการทำร้าย หรือการข่มขืน เนื่องจากต้องรอผลอย่างเป็นทางการจากทางห้องแล็บนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
วันที่ 18 พ.ค.63
นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล อายุ 44 ปี ลุงเขยของ น้องชมพู่เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรศพ น้องชมพู่ มีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ ด้านตำรวจ สภ.กกตูม ได้นำตัวผู้ที่ต้องสงสัยรวม 7 คน พร้อมเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจสอบหาหลักฐาน ขณะที่พยานเด็ก อายุ 7 ขวบ บอกเล่าว่า เห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อสีส้มแขนยาว สวมหมวกสีดำเหมือนคนตัดอ้อย ปิดบังใบหน้าอุ้มน้องชมพู่ เดินมุ่งหน้าไปทางไร่มัน
วันที่ 19 พ.ค.63
แผนกนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี ยืนยันผลการตรวจชันสูตร น้องชมพู่ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือการล่วงละเมิดทางเพศ ระบุแต่เพียงว่า “ไม่ปรากฏสาเหตุการตาย แต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ” ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิด หรือสาเหตุใด
วันที่ 20 พ.ค.63
ครอบครัวได้นำร่าง น้องชมพู่ ประกอบพิธีทางศาสนา ในรูปแบบการเผาแบบเชิงตะกอนแบบโบราณ ที่ป่าช้าบ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร
วันที่ 21 พ.ค.63
ตำรวจ เริ่มจำกัดวงผู้ต้องสงสัยเหลือ 2 คน หลังคนแรกคำให้การมีความน่าสงสัย คนที่สอง เคยมีประวัติคดีทางเพศและคลิปลามก โดยยังรอผลตรวจดีเอ็นเอมาเปรียบเทียบอีกที
วันที่ 25 มิ.ย.63
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.ออกมาเปิดเผยว่า ตำรวจได้ทำการสืบสวนคดีไปแล้ว 70% และจะไม่มีการจับแพะอย่างแน่นอน พร้อมพุ่งเป้าสงสัยไปที่ ชายสติไม่สมประกอบ ที่เดินแบกกระสอบปุ๋ย อยู่ในหมู่บ้านกกกอก โดยจากการตรวจค้นในกระสอบปุ๋ย พบภาพโป๊และเสื้อผ้าเด็ก พร้อมเส้นผมจำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้ตรวจสอบหาหลักฐาน
นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล อายุ 44 ปี ลุงเขยของ น้องชมพู่เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรศพน้องชมพู่ มีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ ด้านตำรวจ สภ.กกตูม ได้นำตัวผู้ที่ต้องสงสัยรวม 7 คน พร้อมเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจสอบหาหลักฐาน ขณะที่พยานเด็ก อายุ 7 ขวบ บอกเล่าว่า เห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อสีส้มแขนยาว สวมหมวกสีดำเหมือนคนตัดอ้อย ปิดบังใบหน้าอุ้มน้องชมพู่ เดินมุ่งหน้าไปทางไร่มัน
วันที่ 7 ก.ค.63
ลุงพล ได้ไปออกรายการทางสถานีโทรทัศน์ชื่อดัง พร้อมเปิดใจ หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนฆ่าน้องชมพู่ล้านเปอร์เซ็นต์ รักเหมือนลูกตัวเอง จากนั้นก็เริ่มตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับพ่อแม่น้องชมพู่เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นแทน
เพลง เต่างอย – สาวกกกอก ลุงพล ฟีเจอริ่ง จินตรา ถูกซ่อนจาก YouTube ไม่สามารถรับชมได้
วันที่ 8 ก.ค.63
พ่อแม่น้องชมพู่ เปิดใจเหตุสงสัยในตัว ลุงพล หลังพบพิรุธหลายอย่าง และให้ข้อมูลไม่ตรงกัน อีกทั้งยังมั่นใจว่าน้องสะดิ้งลูกสาวไม่โกหก
วันที่ 9 ก.ค.63
พ่อแม่น้องชมพู่รับคำท้า ลุงพล สาบานต่อหน้าวัดพระแก้ว ยืนยันไม่ได้ฆ่าลูก ด้านลุงพลได้สาบานต่อหน้าหลวงปู่ลิ้น วัดถ้ำภูผาแอกว่าไม่ได้ฆ่าหลานสาว
วันที่ 10 ก.ค.63
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ออกมาเปิดเผยว่าความคดีน้องชมพู่มีความคืบหน้า 80% ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง โดยในเวลานี้ได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 900 กว่าปากแล้ว
ขณะที่แม่น้องชมพู่ เผยเหตุผล ให้สะดิ้ง ลูกคนโตโกหกว่าหลับ ในวันที่น้องหายตัว เพราะไม่อยากให้คนร้ายรู้ เพราะกลัวว่าลูกจะมีอันตราย
1 ปีที่รอคอยกฎแห่งกรรม อุ๊บ วิริยะ โพสต์รูปคู่ลุงพล อวสานดารากกกอก
วันที่ 11 ก.ค.63
แม่น้องชมพู่ ได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน หลังมีคนอ้างชื่อเป็นตำรวจยศใหญ่เรียกเงิน เสนอตัวจะช่วยคดี
วันที่ 21 ก.ค.63
ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดพบศพ น้องชมพู่ อีกครั้ง และพบเสื้อสีส้ม ที่คาดว่าเป็นของผู้ต้องสงสัยซุกอยู่ข้างกอ ต่อมาเจ้าของเสื้อสีส้ม ที่พบในป่าไผ่ โดยยอมรับเป็นเสื้อของตน ที่ถอดทิ้งขณะไปหาหน่อไม้เมื่อปลายปี 2562
วันที่ 28 ก.ค.63
ตาและยายของน้องชมพู่ได้นำ คนในครอบครัวไปดื่มน้ำสาบานที่วัดถ้ำภูผาแอก ซึ่งมีหลายคน ตั้งข้อสงสัยลุงพล ที่ได้ปักธูปกลับหัว ขณะที่หมอปลาได้ชี้แจงว่า เป็นคนบอกให้ลุงพลปักธูปกลับหัวในพิธีสาบานเอง โดยบอกว่าไม่เกี่ยวการตายน้องชมพู่ แต่เพื่อแก้คุณไสยจากผู้ไม่หวังดี
วันที่ 26 ก.ย.63
ตำรวจ ได้เรียก ลุงพลมาสอบปากคำ
เปิดสาเหตุกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับ ‘อ๋อ ธนากร’ ยูทูปเบอร์ คนสนิทของลุงพล
วันที่ 17 ม.ค.64
เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี ได้เชิญตัวบรรดาชาวบ้าน บ้านกกกอกไปยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จ.ปทุมธานี เพื่อเข้าเครื่องจับเท็จ
วันที่ 11 พ.ค.64
ครบ 1 ปี คดี น้องชมพู่ เสียชีวิตปริศนา
วันที่ 29 พ.ค.64
ตำรวจ ออกมาเปิดเผยว่า รู้ตัวคนร้ายแล้ว หลังหลักฐานสำคัญเป็นเส้นผม 3 เส้นและเตรียมขอหมายจับ
วันที่ 1 มิ.ย.64
ศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้อนุมัติหมายจับลุงพล ใน3ข้อหา คือ พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
วันที่ 2 มิ.ย. 64
ลุงพล และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ภรรยา เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้ามอบตัวในคดีน้องชมพู่ หลังถูกศาลออกหมายจับใน 3 ข้อหา ซึ่งในเวลาต่อมาตำรวจได้พาลุงพลขึ้น ฮ. ไป สภ.กกตูม พื้นที่เกิดเหตุ ขณะนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ได้เตรียมคัดค้านประกันตัวลุงพล เนื่องจากเชื่อว่าลุงพลมีพฤติกรรมคุกคามพยาน
