กรุงเทพฯ ประกาศสถานการฝุ่น PM2.5 เริ่มแย่และมีแนวโนมมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ขอความร่วมมืองดเผา งดก่อสร้าง งดใช้รถส่วนตัวแก้ปัยหาฝุ่น
วันนี้ (15 ธ.ค. 63) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อาจารย์ประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าวชี้แจงสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และการแก้ไขปัญหาบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ไม่ให้ส่งผลระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 จากภาพรวมของสภาพอากาศ 3 วันที่ผ่านมา กรุงเทพฯและปริมณฑล มีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เนื่องจากมีความกดอากาศต่ำ ความเร็วลมต่ำ ความชื้นสัมพัทธ์สูง และการยกตัวของอากาศไม่ดี ทำให้อากาศนิ่ง มีผลต่อการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 สูงมากขึ้น
ส่วนใหญ่พบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานบริเวณริมถนน ได้แก่ ริมถนนดินแดง เขตดินแดง, ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน, ริมถนนมาเจริญ เขตหนองแขม, ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ, ริมถนนแยกท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ ริมถนนสามเสน เขตพระนคร, ริมถนนพระรามที่ 4 หน้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน, ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน, ริมถนนพระราม 5 เขตดุสิต, ริมถนนพุทธมณฑล 1 เขตตลิ่งชัน, ริมถนนบางนา ตราด เขตบางนา, แขวงคลองเตย เขตคลองเตย, แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ, แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เป็นต้น รวมทั้ง 4 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี, จ. สมุทรสาคร, จ.ปทุมธานี
ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ได้ขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่
กรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควบคุมไม่ให้มีการเผาวัสดุทางการเกษตร ในที่โล่งในเขตปริมณฑลรอบกรุงเทพมหานคร ในช่วงวันที่ 14 – 17 ธันวาคมนี้
ในส่วนของภาคประชาชนขอความร่วมมืองดใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ดับเครื่องยนต์ขณะจอด หากเป็นไปได้แนะให้ใช้การขนส่งสาธารณะ เพื่อลดปริมาณฝุ่นที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์
ทั้งนี้ ศกพ. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งจังหวัดปริมณฑล จะมีการยกระดับการดำเนินการ และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มประสิทธิภาพ เข้มงวดการตรวจวัดควันดำ ควบคุมและลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง
อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ที่ยกระดับเพิ่มมากขึ้น กทม.ได้ยกระดับมาตรการเป็นระดับที่ 2 ได้แก่
1.การบังคับใช้กฎหมายควบคุมไม่ให้มีการเผาในพื้นที่ โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบ กวดขัน การออกหน่วยสาธารณสุขให้บริการประชาชนในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูง
2.ในส่วนของกิจกรรมก่อสร้างขนาดใหญ่ อาคาร รถไฟฟ้า หรือการก่อสร้างอื่นที่ทำให้เกิดฝุ่น การถมดิน การขนย้ายอุปกรณ์ จะประสานเจ้าของกิจการให้งดดำเนินการ ยกเว้นการตกแต่งภายในยังคงสามารถทำได้จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
3.สำหรับสถานศึกษาสังกัดกรุงเทพมหานคร ให้สำนักงานเขตร่วมกับโรงเรียนพิจารณาว่าโรงเรียนใดอยู่ในพื้นที่เสี่ยง และไม่สามารถจัดหาห้องที่มีเครื่องกรองอากาศได้ ให้ดำเนินการปิดเรียนตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ทางกรุงเทพฯ ได้ดำเนินการฉีดพ่นน้ำอย่างต่อเนื่องหลายวิธี ทั้งการฉีดน้ำเพื่อล้างต้นไม้เพื่อชะล้างฝุ่น PM2.5 ที่เกาะอยู่กับใบไม้ ให้ใบไม้สะอาดเพื่อใช้ดักจับฝุ่นใหม่ต่อไป การฉีดน้ำล้างถนนเพื่อล้างฝุ่น PM10 ลงท่อระบายน้ำ ป้องกันไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจายกลับขึ้นมาในอากาศ การฉีดน้ำบริเวณเขตก่อสร้างเพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่น PM10 และไม่ให้แตกตัวเป็น PM2.5 และการฉีดน้ำรอบอาคารสูงเพื่อลดปริมาณฝุ่นรอบๆอาคาร ช่วยให้คนที่อยู่ในอาคารปลอดภัยเนื่องจากฝุ่นในอาคารน้อยลง
ทางด้านของกรมอุตุนิยมวิทยา กรมควบคุมมลพิษ และกรมอนามัย ได้รายงานข้อมูลสถานการณ์ฝุ่นละอองปัจจุบันของประเทศไทย ซึ่งสาเหตุเกิดจากปัจจัยสภาพอากาศที่ควบคุมไม่ได้ และปัจจัยต้นเหตุของปัญหาที่เกิดจากมนุษย์ เช่น รถยนต์ การก่อสร้าง และการเผาในภาคการเกษตร ในส่วนของสภาพอากาศกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในอีก 2-3 วันหลังจากนี้ ความกดอากาศสูงจะเข้าสู่ประเทศไทยทำให้เกิดลมและสภาพอากาศไหลเวียนดีขึ้น