แรงงานต่างด้าว พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีที่สื่อนำเสนอข่าว “ทหาร รวบ ดาบตำรวจ ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมือง เจอซุ่มจับ” นั้น
ได้รับรายงานจาก กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ว่า เมื่อวันที่ (3 ส.ค.) เวลาประมาณ 06.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ร่วมกับทหาร ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการช่วยเหลือนำคนต่างด้าวเดินทางเข้าไปในพื้นที่ชั้นในโดยใช้รถยนต์ จึงได้จัดกำลังเพื่อสืบสวนหาข่าวและออกตรวจในพื้นที่สุ่มเสี่ยง จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.30 น. เจ้าหน้าที่ ได้พบรถยนต์ต้องสงสัย คันที่ยึดไว้เป็นของกลางขับมาบนทางหลวงชนบทสายแม่ปะ-ห้วยหินฝน อ.แม่สอด จ.ตาก จึงได้ส่งสัญญาณเรียกหยุดรถ พร้อมได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตรวจ ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางตลอดจนเอกสารประจำตัวต่างๆ
ลักลอบเข้าเมือง! จับ10 แรงงานต่างด้าว ตม. เตรียมพร้อมเฟส 6
จากการตรวจสอบพบบุคคล ชาย สัญชาติไทย จำนวน 2 คน ให้การรับว่า ร่วมกันรับบุคคลต่างด้าว เป็นชาย สัญชาติเมียนมา อายุ 15 ปี จำนวน 1 คน และ หญิง สัญชาติเมียนมา อายุ 27 ปี จำนวน 1 คน ที่บริเวณสำนักงานขนส่งจังหวัดตาก สาขาแม่สอด ไปส่งปลายทางพื้นที่ จังหวัดตาก
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้แจ้งข้อกล่าวหา บุคคล สัญชาติไทย 2 คน ในความผิดฐาน “ร่วมกันซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นการจับกุม” และ บุคคล สัญชาติเมียนมา 2 คน ในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดหฎหมาย” ประกอบกับ จากการตรวจสอบข้อมูลบุคคลสัญชาติไทย ของผู้ถูกจับกุมรายหนึ่ง พบว่า เป็นข้าราชการตำรวจยศ ดาบตำรวจ ตำแหน่ง ผบ.หมู่(ป.) สภ.พบพระ จว.ตาก จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดทราบ โดยทาง พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผบก.ภ.จว.ตาก ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจที่ถูกจับกุมออกจากราชการไว้ก่อน
ด่วน! อัยการสูงสุด จ่อฟ้อง วรยุทธ อยู่วิทยา ชี้ความเร็วรถ – โคเคน คือหลักฐานใหม่
คนไทยในต่างประเทศ วอน รัฐบาลช่วยเหลือ ซึมเศร้าหนัก คิดถึงครอบครัว
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญา อย่างตรงไปตรงมา พร้อมให้ทำการสืบสวน ขยายผล จับกุม ผู้ที่ให้การสนับสนุนและอยู่เบื้องหลังทุกมิติ ประกอบกับ ให้ผู้บังคับบัญชา ลงไปกวดขัน สอดส่อง ดูแล ความประพฤติผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้กระทำผิดกฎหมายเสียงเอง หากพบว่าปล่อยปละละเลย ไม่เอาใจใส่ ให้พิจารณาข้อบกพร่อง หรือ ลงทัณฑ์กับผู้งบังคับบัญชาต้นสังกัดตามดับชั้น และเน้นย้ำให้ประสานงานกับหน่วยร่วมปฏิบัติทุกภาคส่วนในการสืบสวน หาข่าว การกระทำความผิดในลักษณะเป็นขบวนการนำพา เป็นนายหน้าและการดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกราย อย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันและลดโอกาสนำเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) เข้าสู่ประเทศไทย