ค้ากามเด็ก พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอข่าวกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. ทลายเครือข่าย 6 แม่เล้าค้ากามเด็ก ในเขตพื้นที่ จว.ราชบุรี และ จว.กาญจนบุรี ว่า
ตามที่ได้รับรายงานจาก บก.ปคม. ว่า ระหว่างวันที่ 9 – 10 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 6 ราย ในเขตพื้นที่ จว.ราชบุรี และ จว.กาญจนบุรี ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกันไว้ และร่วมกันค้ามนุษย์ (ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี)ฯ” พร้อมตรวจยึดของกลางหลายรายการ นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย นั้น
ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สอดรับนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการดำเนินคดีและบังใช้กฎหมายปราบปรามการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบอย่างจริงจัง การคุ้มครองเหยื่อ และการสร้างความตระหนักรู้ให้กับกลุ่มเสี่ยงเพื่อให้การป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับใช้มาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่องและจริงจัง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าว ทาง พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 ได้สั่งให้ ภ.จว.ราชบุรี และ ภ.จว.กาญจนบุรี ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมรายงานข้อเท็จจริงให้ทราบภายใน 7 วัน หากการตรวจสอบพบว่ามีการปล่อยปละละเลยฯ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จะดำเนินการระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาดต่อไป อย่างไรก็ตาม คงต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวเสร็จสิ้นเสียก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีการกำชับการป้องกันปราบการค้ามนุษย์ ตามนโยบายของรัฐบาล มาโดยตลอด ในการปราบปรามการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบ อย่างจริงจัง พร้อมทั้งสืบสวนขยายผลการจับกุมเครือข่าย ขบวนการค้ามนุษย์ให้ครบทั้งขบวนการ ได้แก่ ผู้นำพา ผู้ค้า ผู้ให้ที่พักพิง นายจ้าง นายหน้า นายทุน ผู้ให้การสนับสนุน และผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
พร้อมกันนี้ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ลงไปกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ห้ามมิให้ทีการเข้าไปยุ่งเกี่ยว เรียกรับผลประโยชน์ ที่มิชอบด้วยกฎหมาย ควบคุม ดูแลความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537 โดยหากตรวจสอบแล้วพบข้อบกพร่องก็จะพิจารณาโทษของผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดหรือ เบาะแส สามารถแจ้งมาได้ที่หมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง