หาดม่วงงาม เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา ที่ซึ่งมีประชาชนชาวสงขลาที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมชายหาด พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งหาดม่วงงาม ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา ปักหลักชุมนุมกันอยู่นั้น ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์, วรรณวิภา ไม้สน, และกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี 3 ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ร่วมลงพื้นที่พบปะกับประชาชนที่มาร่วมกันชุมนุม เพื่อให้กำลังใจแก่ประชาชนและร่วมติดตามความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว ก่อนจะลงพื้นที่หาดม่วงงามเพื่อดูหน้างานของโครงการดังกล่าว
โดยประเสริฐพงษ์ระบุว่าวันนี้ตนและทีมงาน ส.ส.พรรคก้าวไกลทั้งสามคน ได้เดินทางมาให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ปักหลักประท้วงที่ศาลากลางจังหวัดสงขลามา 4 คืน 5 วันแล้ว รวมทั้งได้มาถามความคืบหน้าจากสิ่งที่ตนได้อภิปรายคัดค้านไปในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (4 มิถุนายน 2563) ตามคำเชิญของรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และได้เข้าพบผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมเพื่อหารือถึงกรณีดังกล่าว
ประเสริฐพงษ์กล่าวต่อว่า จากสิ่งที่ตนได้อภิปรายไปในสภาเมื่อคืนนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ดูแลกรมโยธาธิการ เจ้าของโครงการดังกล่าว ได้ตอบกลับกับตนมาว่าจะทำตามความต้องการของประชาชน ซึ่งถ้าไม่ต้องการให้เกิดโครงการนี้ก็จะนำกลับมาพิจารณาใหม่
“ล่าสุดวันนี้พวกเราได้รับข่าวดีว่า กรมโยธาธิการที่ส่วนกลางได้ประสานงานมายังกรมโยธาธิการจังหวัดสงขลา เพื่อสั่งให้ผู้รับเหมางานหยุดการดำเนินการทุกอย่างก่อนชั่วคราวแล้ว ตรงกับความต้องการประชาชนที่มาประท้วง ซึ่งบัดนี้ได้ยุติการชุมนุมแยกย้ายกันกลับพื้นที่ไปแล้ว เราพรรคก้าวไกลถือว่าเราได้ทำหน้าที่ตัวแทนประชาชน บรรลุวัตถุประสงค์ให้หยุดโครงการไว้ก่อนได้”
นอกจากนี้ ตนยังได้พูดคุยกับทั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ซึ่งทั้งสองท่านได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งในการประสานงานกับส่วนกลาง การให้ข้อมูลด้วยวาจา และการให้ข้อมูลที่เป็นเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้างและรายละเอียดความคืบหน้าของโครงการต่างๆ นับเป็นข่าวดีที่เราได้แจ้งพี่น้องว่าโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งตรงนี้ได้ถูกสั่งหยุดแล้วชั่วคราว
“เราคาดหวังว่าการหยุดชั่วคราวครั้งนี้จะนำไปสู่การหยุดก่อสร้างโครงการอย่างถาวร ทีมงานในพื้นที่และพวกเรามีเจตนารมณ์เดียวกันคือหยุดโครงการนี้ ผมยืนยันในคำอภิปรายเมื่อคืนนี้ ว่าโครงการนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะทรัพยากรทะเลชายและชายฝั่งสงขลา ทำผิดขั้นตอน และกรมโยธาธิการไม่มีอำนาจในการทำตรงนี้ นี่เป็นเรื่องของ ทช. (กรมทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง) หาดม่วงงามเป็นชายหาดที่อุดมสมบูณรณ์ แต่ EIA ก็ถูกยกเลิกไปไม่ได้ทำ ทั้งๆที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีข้อมูลชัดเจนว่าหาดม่วงงามมีเต่าละเลขึ้นมาวางไข่เป็นประจำ ถ้าสร้างกำแพงจะไม่มีพื้นที่บ้านให้เต่ามาวางไข่ ผมยืนยันว่าอำนาจหน้าที่ตรงนี้เป็นของ ทช. อาจจะมีกฎหมายกรมเจ้าท่ามาเกี่ยวบ้าง แต่กฎหมายเฉพาะต้องอยู่ในอำนาจ ทช.เท่านั้น หน่วยงานอื่นต้องหนุดการกระทำทั้งหมด” ประเสริฐพงษ์กล่าว
ประเสริฐพงษ์กล่าวต่อว่า จากนี้ ตนจะได้นำเรื่องนี้จะเข้าที่ประชุมของคณะกรรมาธิการการบรรเทาสาธารณภัยของสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้า รวมทั้งจะนำข้อมูลตรงนี้ไปแถลงข่าว ว่าที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการปิดกั้นกลั่นแกล้งประชาชน ซึ่งตนได้รับการร้องเรียนมาโดยตลอดว่ามีการเอากองกำลังมาบีบคั้นไม่ให้ประชาชนแสดงออก ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกได้
ประเสริฐพงษ์ยังกล่าวด้วยว่าต่อจากนี้ ตนจะทำการเกาะติดเรื่องนี้ต่อไปจนกว่าจะถึงที่สุด ในฐานะที่ตนคลุกคลีกับเรื่องทรัพยากรทะเลและชายฝั่งมาตั้งแต่ยังเป็นภาคประชาสังคมสู้กับพี่น้องในพื้นที่มา ตั้งแต่เรื่องของอ่าวมาหยาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้ตนอย่างมาก แล้ววันนี้ก็ยังต้องมาเจอเหตุการณ์เหมือนหนังม้วนเก้ากลับมาฉายซ้ำอีก ทั้งๆที่ภาครัฐควรจะต้องคำนึงถึงองค์ความรู้จากนักวิชาการ รับฟังความเห็นพี่น้องประชาชน ไม่ควรดื้อรั้นเอาโครงสร้างแข็งมาสร้างในทันที เพราะการจัดการชายฝั่งทะเลต้องใช้มาตรการสีขาวก่อน เรียกว่าเป็นมาตรการจากเบาไปหาหนัก เช่น การถอยร่น เลื่อนแนวถนน เพราะชายฝั่งมีองค์ประกอบที่เราต้องคำนึงถึงหลายอย่าง
สุดท้ายนี้ ทางตนจะทำการติดเกาะเรื่องนี้อย่างแน่นอน โดยในระยะเฉพาะหน้าจะเป็นการทำงานในการประชุมคณะกรรมาธิการ ซึ่งตนจะเข้าไปยืนยันในเรื่องนี้ รวมถึงจะกลับไปตามเรื่องที่กรมโยธาธิการให้หนักขึ้น เพราะที่ผ่านมาปัญหาเกิดขึ้นจากความดื้อรั้นของกรมโยธาธิการที่ไม่ยอมหยุดยั้งโครงการทั้งๆที่ไม่มีอำนาจหน้าที่
“ผมคาดการณ์ไว้ว่าหลังจากนี้อาจจะมีความพยายามสร้างมวลชนขึ้นมาขัดแย้งกับประชาชนที่คัดค้านโครงการนี้ เกิดเป็นความขัดแย้งในพื้นที่ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้มีแนวโน้มที่จะดึงดันสร้างต่อ ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องสู้กันต่อไป ผมจะไม่ยอมให้มีการทำลายชายหาดม่วงงามเด็ดขาด และจะทำให้การต่อสู้นี้เป็นตัวอย่างให้กับชายหาดอื่นๆทั่วประเทศ ผมยินดีสนับสนุนการต่อสู้ไม่เพียงแค่ผ่านสภาเท่านั้น หากต้องไปถึงชั้นศาลผมก็พร้อมจะสนับสนุนการต่อสู้ให้ถึงที่สุด และสุดท้ายนี้ผมอยากให้ศาลปกครองสงขลารีบยกเรื่องมาทำการไต่สวนฉุกเฉินด้วย เพราะความยุติธรรมที่ล่าช้าคือความอยุติธรรม” ประเสริฐพงษ์กล่าวทิ้งท้าย
