กรมควบคุมโรค แนะนำชัด! ใส่แมสก์ 2 ขั้น ( แมสก์ผ้า+หน้ากากอนามัย) เข้าแหล่งชุมชน เผย ป้องกันได้ถึง 95 % หรือ หากสวมแมสก์แค่ 1 ขั้น ต้องสวมแบบแนบสนิท
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สิ่งที่จำเป็นที่สุดขณะที่ออกจากบ้าน คือ หน้ากากอนามัย เนื่องจากเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันเชื้อเข้าสู่ร่างกายของเรา ซึ่งก่อนหน้านี้ในประเทศไทยมีช่วงที่หน้ากากอนามัยขาดตลาด และกลายเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการในตลาด ทำให้หลายกลุ่มกันมาเลือกใช้หน้ากากผ้า ที่สามารถใช้แล้วซัก และนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง ต่อมามีหลายฝ่ายที่ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้แมสก์ผ้า ทั้งเรื่องความสะอาด และ ไม่แนบชิดกับหน้า หากหลุดเสี่ยงติดเชื้อ
ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยข้อมูลเกี่บงกับการสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้ ความว่า
กรมควบคุมโรค แนะนำเคร่งครัดใส่แมสก์ 2 ชั้น เข้าแหล่งชุมชนกรมควบคุมโรค เผย ปัจจุบันการติดเชื้อโควิด-19 มาจากการแพร่ระบาดของเชื้อ 2 สายพันธุ์หลัก คือ สายพันธุ์เดลต้า ร้อยละ 69.1 ส่วนสายพันธุ์อัลฟา ร้อยละ 28.2 ซึ่งเชื้อไวรัสนี้ติดต่อได้ง่ายและรวดเร็ว การใส่หน้ากากอนามัย 100% จะช่วยลดการแพร่เชื้อและป้องกันการรับเชื้อได้เป็นอย่างดี ควรสวมหน้ากากตลอดเวลา ทั้งขณะอยู่ในบ้านและนอกบ้าน โดยยึดหลัก 3 ถูก ถูกเวลา ถูกวิธี ถูกชนิด
ในบ้านเป็นพื้นที่ปิด สามารถใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย 1 ชั้นก็เพียงพอ แต่หากต้องไปในแหล่งชุมชน เช่น ตลาดสด ตลาดนัด ซูเปอร์มาร์เก็ต ขอให้ใส่ 2 ชั้น โดยใส่หน้ากากทางการแพทย์ไว้ด้านใน และสวมหน้ากากผ้าไว้ด้านนอก จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและป้องกันเชื้อได้ดียิ่งขึ้น

- หากสวมแมส์เพียง 1 ชั้น อีกทั้งมีช่องโหว่ ไม่แนบสนิทไปกับใบหน้า สามารถปเองกันเชื้อได้เพียง 41.3 %
- หากสวมแมสก์ 1 ชั้น แต่ไม่มีช่องโหว่ และแนบสนิทไปกับใบหน้า (ใช้วิธีการบิดสายคล้องหูหนึ่งครั้งเกี่ยวที่ใบหู) สามารถป้องกันเชื้อได้ถึง 95%
- หากสวมหน้ากาก 2 ชั้น โดยสวมหน้ากากผ้าครอบด้านนอกของหน้ากากอนามัย สามาถป้องกันเชื้อได้ถึง 95%
ข้อควรระวัง การสวมแมส์ 2 ขั้น
- ต้องมั่นใจว่า มีการระบายอากาศที่ดีพอ
- มั่นสังเหตุอาการของตัวเอง เช่น หายใจไม่ออก ปวดหัว เวียนหัว ง่วงซึม
- หากใส่แมสก์สองขั้นแล้วรู้สึกพูดไม่ชัด หายใจไม่ออก จนต้องเอามือจับตลอดเวลา แนะนำไม่ให้ใส่
สามารถติดตามข่าวสาร และ อัปเดทสถานการ์โควิด-19 ได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV
ข่าวที่น่าสนใจ