หมอธีระวัฒน์ เปิดผลวิจัย ‘ฉีดวัคซีนไขว้ SV+AZ‘ แม้ภูมิขึ้น แต่กันไวรัสเดลตาไม่ได้ ชี้ควรใช้วัคซีนตัวเดียวกัน 2 เข็ม ก่อน ค่อยฉีดเข็ม 3 เพิ่ม
จากกรณีที่ทาง กระทรวงสาธารณะสุขออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยฉีดซิโนแวคเป็นเข็มแรก ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มสอง ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ ทำให้ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงใกล้เคียงกับการฉีดแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม จนถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคมที่สัดส่วนเชื้อเดลตามากถึง 78.2% พบว่าแนวโน้มประสิทธิผลการป้องกันการติดเชื้อยังคงที่ ไม่ได้ต่ำกว่า 70% นั้น
ล่าสุดวันนี้ (19 ส.ค.) นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า
ข้อมูลที่ทางการออกมาเปิดเผยว่าการใช้เข็มที่หนึ่งคือชิโนแวค และเข็มที่สองเป็นแอสตร้าฯ นั้นจะเห็นได้ว่า ถึงแม้ภูมิที่วัดจะดูสูงกว่าชิโนแวค 2 หรือ แอสตร้า 2 แต่ภูมิที่เห็นนั้นเป็น “ภูมิรวม” ไม่ใช่ภูมิที่ยับยั้งไวรัส (ในรูปแรก) และเมื่อดูภูมิเฉพาะเจาะจงที่ยับยั้งไวรัสเดลต้านั้น ที่ดีที่สุดคือ ชิโนแว็คสองเข็ม ตามด้วยเข็ม 3 แอสตร้า
ดังนั้น ข้อมูลนี้ยืนยันว่าประสิทธิภาพของการไขว้ เข็ม1 ชิโนแวค และเข็ม 2 แอสตร้าฯ นั้นไม่ได้ทำให้มีกำไรขึ้น และไม่ข้ามไปคุ้มกันเดลต้า ดีกว่า จะเสียแอสตร้าไปเปล่าๆหรือไม่ โดยมีข้อสังเกตุอีกประการ คือ AZ AZ ตามรูปทำไมระดับต่อ เดลต้า ไม่สูงเหมือนรายงานในต่างประเทศทั้งหมด เป็นเพราะ คนสูงอายุมากหรือไม่
โดยหมอธีระวัฒน์ ยังเคยระบุไว้ว่า การใช้สูตรชิโนแวค เชื้อตายซึ่งออกแบบให้การฉีดในระยะแรกเป็นสองเข็มแล้วจะทำให้เกิดผลในการป้องกันการติดและลดอาการหนักหรือเสียชีวิตแต่เมื่อมีการปรับเปลี่ยนเป็นชิโนแว็ค หนึ่งเข็มตามด้วยวัคซีนอื่น เป็นเรื่องที่ยังไม่ชัดเจนนัก
เมื่อเปรียบเทียบกับวัคซีนอื่นเช่น แอสตร้า หรือไฟเซอร์ โมเดนา ที่มีข้อมูลแม้หลังจากหนึ่งเข็มก็ตามจะสามารถมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อและอาการหนักได้ระดับหนึ่งดังนั้นการใช้ชิโนแวคเข็มแรกตามด้วยแอสตร้าเข็มที่สองจึงมีข้อกังวลว่าทำไมไม่ใช้แอสตร้า สองเข็มไปเลย หรือแอสตร้าหนึ่งเข็ม ตามด้วยไฟเซอร์หรือโมเดนา ที่มีการใช้แล้วและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น