ศาลฎีกาสั่งจำคุก สรยุทธ 6 ปี 24 เดือน โกงค่าโฆษณา คดีไร่ส้ม ส่วน พิชชาภา เจ้าหน้าที่อสมท. จำคุก เป็นเวลา 12 ปี
21 ม.ค. 63 ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรีดี นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางพิชชาภา หรือนางชนาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท, บจก.ไร่ส้ม, นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา กก.ผจก.บจก.ไร่ส้มและอดีตพิธีกรรายการ”คุยคุ้ยข่าว”, น.ส.มณฑา พนักงาน บจก.ไร่ส้ม เป็นจำเลยที่ 1- 4 คดีหมายเลขดำ อ.313/2558
ในความผิดฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์กร , เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และสนับสนุนพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ม.6,8,11
คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 48 – 28 เม.ย. 49 ต่อเนื่องกัน นางพิชชาภา พนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท จำเลยที่ 1 ได้จัดทำคิวโฆษณารวม ในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ซึ่งก่อนออกอากาศนางพิชชาภา ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาเกินเวลาจาก บจก.ไร่ส้ม จำเลยที่ 2 จำนวน 17 ครั้ง ทำให้ บมจ.อสมท เสียหาย 138,790,000 บาท และยังได้เรียกรับเอาเงิน 658,996 บาท จากจำเลยที่ 2-4 เพื่อเป็นการตอบแทนที่นางพิชชาภา ไม่รายงานการโฆษณา ซึ่งเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยหน้าที่และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ บมจ.อสมท โดยมีจำเลยที่ 2-4 เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือให้ความสะดวกในการกระทำผิด และมอบเช็คธนาคารธนชาต สาขาพระราม 4 สั่งจ่ายเงินให้นางพิชชาภา
โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก นางพิชชาภา 20 ปี สั่งจำคุก นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา คนละ 13 ปี 4 เดือน และสั่งปรับ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด 80,000 บาท ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันที่ 21 ม.ค. ที่จะถึงนี้ เวลา 10.00 น.
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนเมื่อจำเลยทั้งหมดได้รับหมายศาลแจ้งวันนัดแล้ว ก็ต้องเดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัด นอกจากหากมีเหตุจำเป็นปัจจุบันทันด่วน หรือเจ็บป่วยฉุกเฉินกะทันหัน ต้องมอบหมายให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุญาตเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาไปก่อน
สำหรับนายสรยุทธ และน.ส.มณฑา ได้ประกันตัวระหว่างฎีกาสู้คดี คนละ 5 ล้านบาทพร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และให้จำเลยต้องมารายงานตัวต่อศาลทุก 3 เดือน เช่นเดียวกับ นางพิชชาภา อดีตพนักงาน บมจ.อสมท จำเลยที่ 1 ก็ได้ประกันตัวไป 5 ล้านบาทเช่นกัน
โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาแก้โทษสั่งจำคุก นายสรยุทธ และ น.ส. มณฑา 6 ปี 24 เดือน ส่วนจำเลยที่ 1 (พิชาภา) จำคุก 12 ปี และ ให้บริษัทไร่ส้มจ่ายค่าเสียหาย 72,000 บาท