เปิดเหตุผลหลังจากรัฐบาล ลดภาษีนำเข้า คาร์ชีต Car Seat หลังกฎหมายจรจร เตรียมเริ่มบังคับใช้ 4 กันยายน 2565
จากกรณีที่เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 บัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับข้อบังคับว่า
คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วย เข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด

ขณะที่ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.65 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการลดยกเว้นภาษีนำเข้า คาร์ซีท ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนด้านความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน และเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบกฉบับที่ 13 ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2565
ทั้งนี้ ภายหลังได้มีการประกาศนี้เผยแพร่ออกไป ประเด็นเรื่องข้อบังคับเกี่ยวกับ เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก คาร์ซีท นั้นก็ทำให้ประชาชนหลายคนไม่พอใจเกี่ยวกับมาตการดังกล่าวหลายคนมองว่า เป็นการหาเรื่องให้เสียเงิน หรือ ผลักภาระให้ประชาชน หากินกับคนไม่มีเงินซื้อ

ซึ่งมีน้อยคนมากที่เข้าใจ-เข้าถึงความสำคัญของการมี คาร์ซีท ทั้งๆที่ คาร์ซีท นั้นมีประโยชน์ในด้านของความปลอดภัยให้กับลูกหลานของผู้ขับขี่รถยนต์ เพราะรถนั้นไม่ได้ออกแบบมาเบื่อให้เด็กเล็กนั่งได้อย่างปลอดภัย ที่นั่งหรือเข็มขัดนิภัยจะสามารถใช้ได้กับผู้ที่มีความสูง 140 ซม. ขึ้นไป
ซึ่งเสียงจากประชาชนต่างบอกว่า หากภาครัฐจะเข้ามาช่วยเหลือประชาชนในเรื่องนี้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถซื้อได้
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม
ประโยชน์ของ คาร์ซีท ช่วยให้ลูกคุณปลอดภัย แต่ทำไมหลายคนไม่พอใจ! หลังออกกฎหมาย บังคับใช้
พ่อแม่ใจชื้น ครม.ไฟเขียว ยกเว้น ภาษีนำเข้า คาร์ซีท 20% มีผลจนถึงสิ้นปี 2566
ส่องกฎหมายการบังคับใช้ คาร์ซีท – Car Seat ในต่างประเทศ ล่าสุดไทยประกาศเด็กต่ำกว่า6ปี ต้องนั่งคาร์ซีท