อัยการแนะ 6 ข้อสำคัญพ.ร.บ.จราจร ผู้ขับขี่รถต้องรู้ หลังประกาศใบสั่งทางไปรษณีย์

ดร.ธนกฤต อัยการสูงสุด แนะนำ 6 ข้อ พ.ร.บ.จราจร ผู้ขับขี่รถควรต้องรู้ หลังประกาศส่ง ใบสั่งทางไปรษณีย์ ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ความเคลื่อนไหวระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติจากกรณีการส่ง ใบสั่งทางไปรษณีย์ พ.ศ. 2565 โดยระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ประกาศ ณ วันที่ 12 ก.ค.2565 จึงมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.2565 เป็นต้นไป)

จากกรณีดังกล่าว ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thanakrit Vorathanatchakul เกี่ยวกับระเบียบที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 นอกจากจะมีระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ พ.ศ. 2565 ยังมีระเบียบอื่น ๆ อีก 6 ฉบับ ซึ่งมีความสำคัญและความน่าสนใจที่ผู้ขับขี่รถควรต้องรู้ไว้ด้วย ดังนี้

ความสำคัญระเบียบพ.ร.บ.จราจร 6 ฉบับ ที่ผู้ขับขี่รถควรต้องรู้

  1. ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและอธิบดีกรมการขนส่งทางบก โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 142/1 วรรคสอง และมาตรา 142/4 และใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566)

ระเบียบนี้ถือเป็นระเบียบสำคัญ เนื่องจากเป็นกฎหมายลำดับรองหรือกฎหมายลูกซึ่งรองรับการบังคับใช้มาตรา 142/1 ในการตัดคะแนนความประพฤติ โดยแต่เดิมมาแม้จะมีการแก้ไข พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2562 แต่ก็ยังไม่สามารถบังคับใช้มาตรา 142/1 เพื่อตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถได้ เนื่องจากยังไม่มีการออกกฎหมายลูกมารองรับ

ระเบียบนี้กำหนดหลักเกณฑ์ในการบันทึกคะแนน การตัดคะแนน และการคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถ โดยเริ่มแรกผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่แต่ละรายมีคะแนนความประพฤติในการขับรถเพื่อใช้ในการบันทึกคะแนนตามระเบียบนี้ จำนวนคนละไม่เกิน 12 คะแนน และการตัดคะแนน มีตั้งแต่ตัดคะแนนครั้งละ 1 คะแนน ครั้งละ 2 คะแนน ครั้งละ 3 คะแนน และครั้งละ 4 คะแนน ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ซึ่งถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถจนเหลือศูนย์คะแนนจะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ทุกชนิดคราวละ 90 วัน สำหรับสาระสำคัญของระเบียบนี้ เนื่องจากมีรายละเอียดมากจึงจะได้กล่าวถึงแยกต่างหากในครั้งต่อไป

  1. ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 142/1 วรรคสาม และมาตรา 142/2 และใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566)

สาระสำคัญของระเบียบนี้ คือ
1 ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ จนเหลือศูนย์คะแนน ให้ดำเนินการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ทุกประเภทของผู้นั้นคราวละ 90 วัน

2 คำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ให้ทำเป็นหนังสือและให้แจ้งให้นายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกทราบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

3 ให้นับวันเริ่มต้นของคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เมื่อพ้นกำหนด 30 วัน นับจากวันที่คะแนนของผู้ขับขี่นั้นเป็นศูนย์คะแนน

ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล ขอบคุณภาพเฟซบุ๊ก Thanakrit Vorathanatchakul
  1. ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 142/5 วรรคสอง และใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

สาระสำคัญของระเบียบนี้ คือ ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้กระทำความผิดที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ครั้งละไม่เกิน 90 วัน โดยให้พิจารณาถึงความร้ายแรงตามพฤติการณ์แห่งกรณี

1 มีเหตุหรือก่อให้เกิดหรือน่าจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสาธารณะ หรือ
2 มีลักษณะเป็นภัยแก่ประชาชนอย่างร้ายแรง หรือ
3 มีพฤติการณ์หลบหนีเมื่อตนเองก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น

การแจ้งคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ให้ทำเป็นหนังสือ โดยมีรายละเอียดตามที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ และให้แจ้งให้นายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกทราบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

  1. ระเบียบว่าด้วยการยึดใบอนุญาตขับขี่ การบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและอธิบดีกรมการขนส่งทางบก โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 140/2 และใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566)

สาระสำคัญของระเบียบนี้ คือ

1 ในกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรได้ว่ากล่าวตักเตือนหรือออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ตามมาตรา 140 แล้ว หากเจ้าพนักงานจราจรเห็นว่า ผู้นั้นอยู่ในสภาพที่หากให้ขับรถต่อไปอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น ให้เจ้าพนักงานจราจรเรียกดูใบอนุญาตขับขี่ หากผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัว ให้เจ้าพนักงานจราจรที่มียศตั้งแต่ร้อยตำรวจตรีขึ้นไป มีอำนาจยึดใบอนุญาตขับขี่ หรือบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อไม่ให้ผู้นั้นขับรถต่อไปอีก

แต่หากไม่สามารถยึดใบอนุญาตขับขี่หรือบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได้ ให้เจ้าพนักงานจราจรที่มียศตั้งแต่ร้อยตำรวจตรีขึ้นไปมีอำนาจระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราวเพื่อมิให้ผู้นั้นขับรถ

2 ให้เจ้าพนักงานจราจรคืนใบอนุญาตขับขี่ หรือยกเลิกการบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ขับขี่อยู่ในสภาพที่สามารถขับรถต่อไปได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น

  1. ระเบียบว่าด้วยการประสานข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับประวัติและการกระทำความผิดตามกฎหมายของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลทะเบียนรถ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและอธิบดีกรมการขนส่งทางบก โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 4/1 และใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

สาระสำคัญของระเบียบนี้ คือ
1 ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบกจัดให้มีข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย ประกอบด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและการกระทำความผิดตามกฎหมายของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลทะเบียนรถ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องและจัดให้มีการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อให้มีการประสานข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกัน

2 ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบก ประสานข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้รวบรวมจัดเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในฐานข้อมูลของแต่ละฝ่าย เพื่อควบคุมและบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ของตน

3 ให้กรมการขนส่งทางบกประสานข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ในส่วนของข้อมูลประวัติอาชญากรรมเท่าที่จำเป็นจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ แต่ต้องได้รับความยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลจากบุคคลเจ้าของประวัติก่อน เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตขับขี่ ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ หรือผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่

  1. ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการอุทธรณ์คำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 142/8 และใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

สาระสำคัญของระเบียบนี้ คือ
1 ผู้ได้รับคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 142/1 หรือมาตรา 142/5 มีสิทธิอุทธรณ์ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง

2 การอุทธรณ์ต้องทำเป็นหนังสือโดยระบุข้อโต้แย้งประกอบข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายและเหตุผลในการอุทธรณ์ และลงลายมือชื่อและที่อยู่ของผู้อุทธรณ์

3 ให้ผู้อุทธรณ์ยื่นหนังสืออุทธรณ์ด้วยตนเองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับต่อผู้ที่มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์ โดยตรงภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่

4 ให้พิจารณาอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ หากพิจารณาไม่แล้วเสร็จในกำหนดให้ถือว่าคำอุทธรณ์มีผลและให้ถือว่าคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่สิ้นสุด

มาตรการในการบังคับใช้กฎหมายจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล

กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้กำหนดมาตรการในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้ผู้ขับขี่มีวินัยจราจร ซึ่งจะช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุและปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครได้ในระดับหนึ่ง โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้ ซึ่งกรณีผู้กระทำความผิดไม่มาชำระค่าปรับ เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบสั่งแต่ละประเภท

เจ้าพนักงานจราจรจะออกหนังสือแจ้งการไม่ปฏิบัติตามใบสั่ง (ใบเตือน) โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับภายใน 15 วัน นับแต่วันครบกำหนดชำระค่าปรับในใบสั่ง โดยให้ถือว่าเจ้าของ/ผู้ครอบครอง ได้รับแจ้งเมื่อพ้นกำหนด 15 วัน นับแต่วันส่ง และต้องชำระค่าปรับภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง

ซึ่งในขั้นตอนที่ 1. และ 2. ผู้กระทำความผิดสามารถเลือกชำระค่าปรับ ได้ที่สถานีตำรวจทุกสถานีทั่วประเทศ, ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ของธนาคารกรุงไทย เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่มีสัญลักษญ์ PTM และทางไปรษณีย์

กรณีพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบเตือน และผู้กระทำความผิดยังไม่มาชำระค่าปรับ นอกจากการส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อดำเนินการตามมาตรการงดออกเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีแล้ว พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพื่อให้มาชำระค่าปรับ หากไม่มาพบตามหมายเรียกทั้ง 2 ครั้ง พนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องขออนุมัติศาลในเขตพื้นที่เพื่อออกหมายจับ

กรณีถูกออกหมายเรียก หรือหมายจับ ผู้ต้องหาจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ตามข้อหาที่ผู้ต้องหากระทำผิดตามใบสั่ง และความผิดข้อหาตามมาตรา 155 “ผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ม.141 (ชำระค่าปรับในเวลาที่กำหนดในใบสั่ง โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท ซึ่งในขั้นตอนนี้ผู้ต้องหาต้องเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง ณ สถานีตำรวจที่ออกหมายเรียก หมายจับไม่สามารถชำระผ่านช่องทางต่างๆ ตามข้อ 2. ได้

ถูกออกหมายจับ เสี่ยงทำเสียประวัติถูกบันทึกระบบฐานข้อมูลตำรวจ

ทั้งนี้ ผลของการถูกออกหมายจับในคดีอาญา เมื่อถูกออกหมายจับแล้ว จะถูกบันทึกในระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวบุคคลที่มีหมายจับได้ทั่วราชอาณาจักร โดยใช้เทคโนโลยีในการเชื่อมฐานข้อมูล , หากบุคคลที่มีหมายจับเดินทางออกนอกประเทศจะถูกจับ และเกิดความยากลำบาก ในเรื่องการเดินทาง , ถูกบันทึกในทะเบียนประวัติซึ่งอาจส่งผลต่อการประกอบอาชีพการทำงาน กรณีที่หน่วยงานสอบถามประวัติคดีอาญาว่าเป็นบุคคลที่มีหมายจับ เกิดความยากลำบากและความน่าเชื่อถือในการทำนิติกรรม

ข่าวอื่น ๆ Bright Today

Website : https://www.brighttv.co.th/

Facebook : https://www.facebook.com/BrightTodayOfficial

Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/101753

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

สุดโต่ง !! “น็อต วิศรุต” เปิดใจ ปาร์ตี้หนัก 60 วัน ติด กลับตัวได้เพราะ?

เปิดตำนานตัวพ่อ! “น็อต วิศรุต” สามี “ชมพู อารยา” เคยปาร์ตี้ 60 วัน 60 คืนไม่พัก เผยอดีตสุดเหวอ ก่อนกลับตัวเพราะอยากอุ้มลูกไปนานๆ ใครจะคิดว […]

“เอวา” โพสต์ อำลา “มายเมทเนท” ลั่น!! หวังว่าจะได้กลับมารักกันในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม

“เอวา ปวรวรรณ” ใจสั่นกลางกล้อง พูดถึง “มายเมทเนท” หลังเลิก! น้ำตาซ่อนรอยยิ้ม — รัก 3 ปีจบลงอย่างงดงามแต่ปวดลึก แม้จะจบกันด้วยดี แต่ความรู้ […]

ร่วมยินดี !! “นนกุล ชานน” คุกเข่า โชว์โมเมนต์หวาน ขอ “แอฟ ทักษอร” แต่งงาน?

“นนกุล ชานน” คุกเข่าให้ “แอฟ ทักษอร” กลางกอง! โมเมนต์หวานทำแฟนคลับใจละลาย กองเชียร์แห่ลุ้นโมเมนต์ขอแต่งงาน ด้านแฟนคลับแห่คอมเมนต์แสดงวามยินดี เรียกเสี […]

“ฟรีน-สโรชา” สาวไทยอีกคน เยือนงาน Met Gala 2025 สื่อต่างชาติแห่สนใจ ยอดวิวทะลุ 5.6 ล้าน !!

“ฟรีน-สโรชา” สาวไทยอีกคน เยือนงาน Met Gala 2025 ครั้งแรกในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ Valentino – ได้รับความสนใจจากสื่อต่างชาติ ยอดวิวทะลุ […]

จัดให้ที่แรกแนวทาง  ทะเบียนรถป้ายแดง กัน จอมพลัง 16 พ.ค. 68

เปิดที่แรกแนวทางหวยไทย เลขเด็ด 2 ตัว และ 3 ตัวตรง ทะเบียนรถป้ายแดง กัน จอมพลัง 16 พ.ค. 68 หวยออกวันศุกร์ อีกแล้ว

Louis Vuitton นำทัพโดย Pharrell Williams สาดพลัง Black Dandyism บนพรม Met Gala 2025

Pharrell Williams นำทัพ Louis Vuitton สาดพลัง Black Dandyism บนพรม Met Gala 2025 — ลิซ่า, Sabrina Carpenter, และตัวพ่อวงการรวมตัวสะท้านวงการแฟชั่น Met […]
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า