หมอธีระ อัปเดตผลศึกษา ‘โอมิครอน‘ ชี้ส่วนใหญ่ติดเชื้อในคนอายุน้อยซึ่งมักมีสถานะสุขภาพดีกว่าคนสูงอายุ ด้านทั่วโลกป่วยโควิดแล้ว 278 ล้านราย!
วันนี้ (24 ธ.ค.) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat โดยระบุว่า
“ทะลุ 278 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 937,935 คน ตายเพิ่ม 6,378 คน รวมแล้วติดไปรวม 278,461,086 คน เสียชีวิตรวม 5,399,908 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ อเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน และอิตาลี จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 91.32 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 93.65
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 55.03 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 56.11 เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 13 ใน 20 อันดับแรกของโลก
สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 2,940 คน สูงเป็นอันดับ 37 ของโลกหากรวม ATK อีก 635 คน ก็ขยับเป็นอันดับ 32 ของโลกยอดรวม ATK จะเป็นอันดับ 5 ของเอเชีย
ภาพรวมการระบาดของ Omicron ระลอก Omicron นี้ทำให้ทั่วโลกเกิดการติดเชื้อใหม่ต่อวัน “สูงที่สุด” เท่าที่เคยมีการระบาดในช่วงสองปีที่ผ่านมา 937,935 คน แม้จำนวนการเสียชีวิตเฉลี่ยในแต่ละวันจะยังดูน้อยกว่าระลอกสายพันธุ์ G, อัลฟ่า และเบต้า แต่สูงกว่าระลอกแรกที่เกิดจากสายพันธุ์ Wuhan
การศึกษาจากทั้งในแอฟริกาใต้ สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก และสก๊อตแลนด์ ชี้ให้เห็นว่าระลอก Omicron นี้จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแล้วต้องนอนโรงพยาบาลน้อยกว่าเดลต้า โดยมีหลายเหตุผลที่อธิบายปรากฏการณ์นี้ คือ ส่วนใหญ่ติดเชื้อในคนอายุน้อยซึ่งมักมีสถานะสุขภาพดีกว่าคนสูงอายุในระลอกก่อนๆ แต่ยังมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับการติดเชื้อ Omicron ในคนกลุ่มเสี่ยงและสูงอายุ
การติดเชื้อ Omicron นี้มีการติดเชื้อในคนที่เคยฉีดวัคซีนมาก่อน ทำให้มีระดับภูมิคุ้มกัน ซึ่งลดความเสี่ยงในการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต Omicron นั้นยังมีการติดเชื้อในกลุ่มคนที่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 มาก่อน ที่เราเรียกว่า Reinfection มากกว่าเดลต้าหลายเท่า ซึ่งคนกลุ่มที่เคยติดเชื้อมาก่อนก็มีระดับภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง ที่อาจลดความเสี่ยงในการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
จากผลการศึกษาของ UK HSA พบว่าปัจจัยต่างๆ ข้างต้นน่าจะเป็นปัจจัยหลักในการอธิบายสิ่งที่เราเห็น ในขณะที่ตัวไวรัส Omicron เอง คาดว่าน่าจะมีความรุนแรง (intrinsic severity) น้อยกว่าเดลต้าอยู่ราว 2-12% โดยมีข้อมูลในตารางของรายงานที่ชี้ให้เห็นเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม อัตราการแพร่เชื้อของ Omicron ที่รวดเร็วกว่าเดลต้า 4.1 เท่า และมีฐานประชากรเป้าหมายที่กว้างกว่าเดลต้า ทั้งคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ฉีดไม่ครบ ฉีดครบแต่ยังไม่ได้กระตุ้น รวมถึงคนที่เคยติดเชื้อมาก่อน จึงทำให้คนจำนวนมากในสังคมมีโอกาสติดเชื้อสายพันธุ์นี้ได้ จึงเห็นจำนวนตัวเลขติดเชื้อใหม่ต่อวันจำนวนมากกว่าทุกระลอกที่ผ่านมา และจะส่งผลต่อระบบสุขภาพของแต่ละประเทศ ทั้งในเรื่องจำนวนคนป่วยและตายได้เช่นกัน
ล่าสุดรายงานฉบับที่ 33 ของ UK HSA เกี่ยวกับ Omicron ระบุว่า ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อกันภายในครอบครัวนั้นสูงกว่าเดลต้าถึง 1.42 เท่า และความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากภายนอกครอบครัวสูงกว่าเดลต้าถึง 2.63 เท่า
นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่หยิบยกมาเตือนกันทุกวันว่า คริสตมาสและปีใหม่นี้ ขอให้ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากเสมอ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า อยู่ห่างคนอื่นเกินหนึ่งเมตรอย่างเป็นกิจวัตรเลี่ยงการตะลอนท่องเที่ยว เลี่ยงปาร์ตี้สังสรรค์คริสตมาสและปีใหม่ ฉลองกับคนในครอบครัวที่บ้านจะปลอดภัยกว่าการตะลอนไปข้างนอก”