บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ — ตามที่่เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าที่ประชุม ครม.มีมติรับทราบและอนุมัติทั้งโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4
ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 8,071 ล้านบาท ให้แก่ผู้มีบัตรฯ จำนวนไม่เกิน 13.45 ล้านคน โดยจะใช้ฐานข้อมูล ณ วันที่ 25 มกราคม 2565
ไทม์ไลน์การเติมเพิ่ม 200 บาทเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีดังนี้
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565
-เติมเงินวงเงินซื้อสินค้า กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 500 บาท
-กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 400 บาท
วันที่ 1 มีนาคม 2565
-เติมเงินวงเงินซื้อสินค้า กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 500 บาท
-กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 400 บาท
วันที่ 1 เมษายน 2565
-เติมเงินวงเงินซื้อสินค้า กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 500 บาท
-กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 400 บาท
2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2
ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าฯ และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน
ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 1,352 ล้านบาท ให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือตามโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางไปลงทะเบียนหรือเดินทางไปใช้จ่ายวงเงินที่ได้รับผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้) ผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่ม ที่ได้รับสิทธิตามโครงการเราชนะ กลุ่ม 4 จำนวนไม่เกิน 2.25 ล้านคน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สรุปไทม์ไลน์ คนละครึ่งเฟส 4 ผู้ลงทะเบียนรายเก่า รายใหม่ต้องลงทะเบียนยืนยันสิทธิ์อย่างไร?
เช็กด่วน! หลักเกณฑ์ใหม่ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 เน้นคัดกรองให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือนม.ค.2565 เหลือสิทธิ์อะไรบ้าง กดเป็นเงินสดได้หรือไม่?