Wisesight เผยข้อมูลอินไซท์ คนใช้เวลาอยู่กับเรื่อง ลุงพล ในโลกโซเชียลนานถึง 10,454,400 วินาที ชี้คดี น้องชมพู่ ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
16 ก.ย. 63 เพจเฟซบุ๊ก Wisesight เปิดข้อมูลอินไซท์ “ลุงพล” กับกระแสโซเชียล โดยระบุว่า โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยหลากหลายเรื่องราวที่เป็นกระแสให้เราได้ติดตามในทุกๆ วัน เป็นระยะเวลากว่า 4 เดือนแล้ว ที่สังคมไทยยังคงอยู่กับเรื่องราวของคดีปริศนา “น้องชมพู่” ที่หายตัวไปจากบ้าน และพบเป็นศพเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำบริเวณเขาภูเหล็กไฟ จ.มุกดาหาร จนมีการสืบสวนสอบสวนเกิดขึ้น เพื่อตามหาความจริงถึงสาเหตุการเสียชีวิต และถ้าหากเป็นการฆาตกรรมตามข้อสันนิษฐาน แล้วใครคือคนร้าย?
เชื่อไหมครับว่าที่ผ่านมาชาวโซเชียลใช้เวลากับเรื่องนี้ไปไม่น้อย จากการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียล ด้วยเครื่องมือ ZOCIAL EYE ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.- 11 ก.ย. 63 เราพบว่า
ประเด็นนี้ได้รับเอ็นเกจเมนต์สูงถึง 39,335,030 เอ็นเกจเมนต์ จากข้อความทางโซเชียลมากถึง 1,132,181 ข้อความ และเราใช้เวลาอยู่กับประเด็นนี้มานานถึง 10,454,400 วินาที หรือ 174,240 นาที หรือ 2,904 ชั่วโมง หรือ 121 วัน
ระหว่างการสืบสวนสอบสวนได้เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย หมู่บ้านกกกอกไม่ได้เงียบสงบอย่างที่เคยเป็น หลายสำนักข่าวพุ่งไปทำข่าวเกาะติดครอบครัวผู้เสียชีวิต “พ่อแม่น้องชมพู่” และ “ลุงพล” ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาจากชาวโซเชียล

อยู่มาวันหนึ่งพ่อแม่ของน้องชมพูกลับลุกขึ้นมาบอกว่าสงสัยในตัวลุงเขยอย่าง “ลุงพล” ว่าอาจจะเป็นคนร้าย แต่ลุงพลก็ออกมาแสดงความบริสุทธิ์เพื่อยืนยันว่าตนไม่ได้ทำ หลังจากนั้นเรื่องราวของลุงพลก็ถูกจับตา และอยู่ในสายตาชาวโซเชียลมาโดยตลอด
การนำเสนอเรื่องราวหลากหลายมุมมอง ทำให้เกิดกระแสทั้งคนที่สงสัย และสงสารลุงพล ผู้คนแห่เข้ามาติดตามอย่างใกล้ชิด มีการบริจาคข้าวของเครื่องใช้ เดินทางมาให้กำลังใจ และสื่อก็หันมาทำข่าวเรียลลิตี้ตามติดชีวิตลุงพล จากคดีดังน้องชมพู่ กลายเป็นถ่ายทอดชีวิตลุงพลที่กลายเป็นคนดังในเพียงไม่กี่เดือน จนข่าวนี้เตลิดไปไกลถึงขั้นมีชาวโซเชียลขุดค้นประวัติของลุงพลในอดีต เรื่องชีวิตส่วนตัวในเชิงลึกทั้งงานอดิเรก ความสามารถพิเศษ สัดส่วนของลุง หรือแม้แต่ตอนลุงพลกินข้าวก็มีคนถ่ายคลิป และมีคนตามดูเป็นจำนวนมาก
ความดังนี้ก็ฉุดไม่อยู่จากกระแสโซเชียล เริ่มมีคนมาติดต่อลุงพลให้ไปออกอีเวนท์มากมาย ล่าสุดมีการแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับหมอลำชื่อดังของไทยอย่าง “จินตหรา พูนลาภ” ได้เดินแฟชั่นวีคครั้งแรกในชีวิต และยังได้เป็นพรีเซนเตอร์ของสินค้าหลายแบรนด์จนเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียล “ใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้” จากคดีอาชญากรรมถูกเบี่ยงประเด็นไปไกลจนเกิดอินฟลูเอ็นเซอร์คนใหม่ขึ้นในโซเชียลมีเดีย
ท่ามกลางการเสพข่าวตามกระแส
เราอาจจะหลงลืมอะไรบางอย่างไป ในวินาทีนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าใครเป็นผู้กระทำผิด และในตอนนี้แทบไม่มีใครพูดถึงเลยว่า ข้อสรุปของคดีสะเทือนขวัญ “น้องชมพู่” เป็นอย่างไร ทางการจะสามารถจับตัวผู้กระทำผิดไปดำเนินคดีตามกฏหมายได้หรือไม่ บทสรุปของเรื่องนี้คงต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เรายังคงเชื่อมั่นในความจริงและความถูกต้อง
กระแสโซเชียลเป็นเรื่องที่เราทุกคนไม่สามารถปฏิเสธได้ในปัจจุบัน แต่จรรยาบรรณในการนำเสนอ และวิจารณญาณในการเสพข่าวเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ควรหลงลืมไปครับ
ขอบคุณข้อมูล Wisesight