กรณีคุณยายวัย 69 ปี ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ และโรคพาร์กินสัน เครียดรถถูกล็อกล้อ ขับรถพุ่งชนพนักงานจราจรและรถยนต์ บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และรถยนต์เสียหาย 4 คัน ล่าสุด ตำรวจพบคุณยายวัย 69 ปี มีใบขับขี่ตลอดชีพทำไว้ตั้งแต่สาว ๆ เตรียมเรียกตัวมาสอบหาสาเหตุเพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่ม
พ.ต.ท.ธงชัย บัวเงิน รอง ผกก.สอบสวน สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ระบุกับทีมข่าวไบรท์ทีวี ว่า จากการสอบสวนหาสาเหตุคุณยายวัย 69 ปี ขับรถกระบะพุ่งชนรถยนต์และพนักงานจราจร ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เบื้องต้น น่าจะเกิดจากความประมาท เพราะพนักงานจราจรผู้บาดเจ็บยืนยันว่าไม่ได้มีปากเสียงกับคุณยาย ส่วนใบขับขี่พบว่าคุณยาย มีใบขับขี่ตลอดชีพ ทำไว้ตั้งแต่สาว ๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุสามารถเจรจากับบริษัทประกันให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คนเจ็บได้เพราะรถทำประกันภัยไว้ เบื้องต้นทั้งผู้บาดเจ็บและค่าเสียหายรถ 4 คัน ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้แล้ว หลังจากนี้จะเรียกคุณยายมาสอบสวนเพิ่ม เพื่อพิจารณาว่าจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่
คุณยายป่วยอัลไซเมอร์เครียดถูกล็อกล้อพุ่งชนยับ เกิดขึ้นได้อย่างไร…
ย้อนไปดูเหตุการณ์ เมื่อเย็นวันที่ 20 ส.ค.61 สภาพของผู้บาดเจ็บจากเหตุคุณยายวัย 69 ปี ขับรถกระบะพุ่งชนขณะอำนวยความสะดวกจราจร บริเวณอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ หน้าประตูหมายเลข 5 พยาบาลต้องเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล ที่เกิดเหตุยังพบรถยนต์ที่จอดอยู่ถูกคุณยายขับรถพุ่งชนได้รับความเสียหายอีก 4 คัน
สอบสวนสาเหตุพบว่า คุณยายไม่พอใจที่รถยนต์กระบะถูกล็อกล้อ เนื่องจากจอดในที่ห้ามจอดนานกว่า 1 ชั่วโมง แม้เจ้าหน้าที่จะปลดล็อกให้แล้วก็ตาม แต่เมื่อขึ้นรถขับออกไป จู่ๆ คุณยายก็ขับรถพุ่งชนพนักงานจราจรบริเวณถนนหน้าอาคารโดยสารได้รับบาดเจ็บและชนรถเสียหาย
ต่อมามีคนดูแลของคุณยายผู้ที่ก่อเหตุ นำใบรับรองการรักษาโรงพยาบาลประสาท ระบุว่า นางภัทรา เป็นโรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสัน อยู่ระหว่างรักษา และล่าสุดแพทย์ตรวจพบเป็นโรคสมองฝ่ออีกด้วย มายืนยันกับตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์
ส่วนคุณยายบอกว่าไม่ได้โมโหเพราะถูกล็อกล้อ จำได้ว่ามาส่งเพื่อนที่สนามบิน จากนั้นก็เดินออกมาเห็นรถถูกล็อกล้อ จึงโทรศัพท์หาหลายชายว่าจะทำอย่างไรดี ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็มาปลดล็อกให้ จากนั้นก็ขับออกมา และเห็นคนนอนอยู่กับพื้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็พร้อมรับผิดชอบและขอโทษ
เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย ส่วนข้อหาอื่นตำรวจกำลังรอผลการตรวจจากแพทย์ และจะได้เชิญคุณยายมาสอบปากคำอีกครั้งเพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป