ตำรวจคุมตัวช่างรับเหมาโหดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุให้คราดเหล็กทำร้ายร่างกายหญิงวัย 67 ปี ซึ่งเป็นนายจ้างจนเสียชีวิตเพื่อชิงทรัพย์ ขณะชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมารอดูโฉมหน้าผู้ต้องหากันเนืองแน่น หวิดโดนประชาทัณฑ์ ขณะผู้ต้องหาอีกรายตัดสินใจผูกคอตายหนีความผิด
พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนร่วมกันควบคุมตัว นายศักดิ์พล หรือ หลุย การุนัง อายุ 21 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าชิงทรัพย์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังได้ร่วมกันฆ่าชิงทรัพย์ ร่วมกันใช้อาวุธซึ่งเป็นคราดเหล็ก และอาวุธมีด ทำร้าย นางองุ่น ศรีคงรักษ์ อายุ 67 ปี เจ้าของสวนผลไม้จนเสียชีวิต พร้อมกับขังหลานสาวผู้ตายวัย 2 ขวบไว้ในห้อง จากนั้นได้ทำการลักเอาทั้งเงินสดและทรัพย์สินของผู้ตายไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะก่อเหตุ ได้มี น.ส.สุภาพร ศรีคงรักษ์ อายุ 32 ปี ลูกสาวของ นางองุ่น ผู้ตาย ได้กลับมาเห็นเหตุการณ์พอดี จึงถูกผู้ต้องหาทั้งสองคน ทำร้ายร่างกายจนรับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะหลบหนีไป
ซึ่งในการทำแผนครั้งนี้มีญาติพี่น้องของผู้ตาย ตลอดจนชาวบ้านที่ทราบข่าวหลายร้อยคนมารอดูโฉมหน้าผู้ต้องหากันเนืองแน่น จนเจ้าหน้าที่ชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษและตำรวจสืบสวน ต้องกระจายกำลังคุมเข้มรีบนำผู้ต้องหาขึ้นรถตู้นำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดทันที หลังเสร็จสิ้นการทำแผนเพราะเกรงจะถูกรุมประชาทัณฑ์
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายศักดิ์พล ให้การรับสารภาพว่าได้ทำการฆ่าชิงทรัพย์ นางองุ่น จริง โดยใช้คราดเหล็กทุบตี จากนั้นนายอรรถพล ผู้ต้องหาอีกคน ได้ใช้อาวุธมีดแทงซ้ำนางองุ่น จนเสียชีวิต และใช้อาวุธชนิดเดียวกันทำร้ายน.ส.สุภาพร ลูกสาวผู้ตาย ที่กลับมาเห็นเหตุการณ์ เพื่อฆ่าปิดปาก จากนั้นได้นำทรัพย์สินมาแบ่งกันและแยกย้ายกันหลบหนี
ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า สาเหตุและแรงจูงใจทำให้ผู้ต้องหาตัดสินใจก่อเหตุ สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน ได้มาทำงานเป็นคนงานรับเหมาก่อสร้างต่อเติมบ้านของผู้ตายและทราบว่า ผู้ตายมีทั้งเงินและทรัพย์สินที่ได้จากการขายผลไม้ เก็บไว้ในบ้าน จึงเกิดความโลภ อาศัยช่วงเวลาที่นายจ้างให้หยุดทำงานในวันแม่พากันย้อนกลับมาเพื่อหวังลักขโมยทรัพย์สิน แต่พบว่ามีนางองุ่น อยู่บ้าน จึงได้ลงมือทำร้ายจนเสียชีวิต โดยหลังเกิดเหตุ ทางตำรวจชุดสืบสวนได้สอบปากคำพยานจนสามารถสืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นใคร จากนั้นจึงได้ขอศาลอนุมัติหมายจับและตามไปจับกุมตัว นายศักดิ์พล ได้ที่บ้านพักพร้อมกับสร้อยคอทองคำของผู้ตายเป็นของกลางจำนวน 1 เส้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์และทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
อย่างไรก็ตามระหว่างที่ตำรวจนำตัวนายศักดิ์พลทำแผนอยู่นั้นทางเจ้าหน้าชุดสืบสวนได้รับรายงานว่า พบตัวนายอรรถพลผู้ต้องหาที่หลบหนีแล้ว เบื้องต้นได้ก่อเหตุผูกคอตายในป่าละเมาะติดกับบ่อพลอย พื้นที่ ม.4 ต.บางกะจะ จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ พร้อมกับแพทย์เวร รพ.พระปกเกล้าฯ เมื่อเดินทางไปถึง พบศพของนายอรรถพล ใช้เชือกไนลอนส์สีเขียวผูกคอห้อยกับกิ่งต้นกระถินเทพา สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขาสามส่วนสีน้ำเงิน เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10-12 ชั่วโมง ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีบาดแผลที่บริเวณง่ามนิ้วเท้าด้านซ้าย คาดน่าจะเกิดจากถูกไม้แหลมทิ่มตำ ระหว่างทิ้งตัวห้อยลงมากับเชือกผูกคอ