22 ก.พ.60 เวลา 9.00 น. ที่ สวนผลไม้ นายถวิล แสงทอง อายุ 73 ปี ได้มีชาวบ้านใน ต.บ้านแลง และ ต.ตะพง อ.เมืองระยอง ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้าของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวน 70 คน รวมตัวกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ของ กฟผ. เข้าดำเนินการตัดต้นไม้ในที่ดินของชาวบ้าน เพื่อปักหลักตอม่อตั้งฐานเสาไฟฟ้าแรงสูง โดยมี นายธัชพล เอี่ยมงาม ปลัดอำเภอเมืองระยอง พร้อมด้วย ตำรวจ ทหาร และอาสากองร้อยรักษาดินแดนอำเภอเมืองระยอง จำนวน 10 คน เฝ้าสังเกตการณ์ ป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ของ กฟผ. ทำได้เพียงการเข้าวัดพื้นที่แค่ฝั่งเดียวเท่านั้น เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ ไม่ยินยอมให้ตัดโค่นต้นไม้ของตน โดยได้มีการนัดเจรจาหาทางออกกันอีกครั้งในวันที่ 1 มี.ค.60
นายจั๊ก บ้านแลง อายุ 73 ปี กล่าวว่า สายไฟฟ้าแรงสูงที่พาดผ่านไป ต้นไม้จะต้องโดนโค่น โดนตัดจนหมด แล้วชาวบ้านเราจะเหลืออะไร เราจะกินอะไรกันต่อไป อายุเราก็ 70 กว่าปีแล้ว กว่าจะปลูกต้นไม้ได้โตขนาดนี้ มันใช้เวลานานมาก ถึงแม้จะมาเริ่มปลูกอีกก็ไม่ทันแล้ว ส่วนของค่าเวนคืนที่ไฟฟ้าจ่ายให้ก็ได้ราคาไร่ละไม่กี่บาท หากมาแลกกับต้นไม้ที่ปลูกมานานมาก เราคือฝ่ายที่เสียผลประโยชน์ เพราะยังไงก็ไม่มีโอกาสปลูกใหม่อีกแล้ว
ทางด้าน นายวิศาล เชี่ยวสาริกิจ นิติกร กฟผ.กล่าวว่า โครงการก่อสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ เชิงเนิน-จุดเชื่อม ระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230กิโลโวลต์ บ้านค่าย-จันทบุรี ระยะทางทั้งสิ้น 13.23 กิโลเมตร ทาง กฟผ. ได้นำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนเป็นที่เรียบร้อย จึงต้องเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ เพราะแผนงานของรัฐมีกำหนดไว้ว่าต้องใช้ไฟฟ้าเมื่อไร ไม่เช่นนั้นจะมีไฟตกไฟดับ ซึ่งวันนี้ กฟผ. ไม่ได้มาโต้แย้งกับประชาชน ยืนยันว่า กฟผ. ฟังเสียงประชาชน แต่การดำเนินงานก็ต้องทำต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยเจรจากับทางภาคประชาชนกันมาโดยตลอด และก่อนที่จะเข้ามาดำเนินการในที่ดินของประชาชน ก็ได้ทำทุกอย่างตามขั้นตอน และพบกับทุกหน่วยงาน