24 ม.ค.60 เวลา 08.30 น. หลังจากที่ จ.ตรัง ประสบปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่ทางการเกษตร สวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันมาตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.59 ถึง ม.ค.60 ส่งผลให้เกษตรกรขาดรายได้มานานนับเดือน และมีผลต่อเนื่องถึงการชำระหนี้ให้กับสถาบันการเกษตรต่าง ๆ รวมทั้ง ธกส. โดยพบว่าวันนี้หลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมสวนยางพาราและสวนปาล์ม โดยน้ำสูงตั้งแต่ 30-80 ซม. ซึ่ง นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผช.ผจก.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) พร้อมคณะได้เดินทางไปยัง ม.3 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง เพื่อนำถุงยังชีพไปมอบให้กับลูกค้า ธกส. และผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน ต.หนองตรุด และ ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง จำนวน 500 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และได้พูดคุยให้กำลังใจกับลูกค้า ธกส. ที่มีปัญหาการผ่อนชำระหนี้ รวมทั้งอีก 11 จังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วม
นายสุพัฒน์ กล่าวว่า พบว่าภาคใต้ที่มีปัญหาน้ำท่วมรวม 12 จังหวัด 111 อำเภอ ซึ่งเป็นลูกค้า ธกส. กว่า 350,000 ราย ซึ่งความเสียหายเบื้องต้นทั้ง 12 จังหวัด ได้มอบหมายให้ ธกส. ร่วมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายแล้วกว่า 2,000 ชุด และเป็นการดำเนินการต่อเนื่อง โดยคาดว่ามีมูลหนี้ไม่ต่ำกว่า 28,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องมีการสำรวจตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้งหลังน้ำลด ส่วนครัวเรือนที่เสียหายหนักเช่นกรีดยางไม่ได้ ตัดผลปาล์มไม่ได้ หรือต้องมีการปลูกทดแทนใหม่ ทำให้มีข้อจำกัดในการชำระหนี้ ธกส. พร้อมขยายเวลาให้อีก 12 เดือน เพื่อไม่ให้เกษตรกรลูกค้า ธกส. ต้องกังวลใจ