สถานการณ์น้ำท่วมตอนนี้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบมากทั้งที่ประเทศเมียนมาในเมืองเมียวดี ริมแม่น้ำเมย และที่ประเทศลาวเกิดเหตุสันเขื่อนเซเปี่ยนแตก ทำให้มวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมเมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ ทำให้ทางการเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ บางส่วนยังติดค้างอยู่บนหลังคาบ้านเฝ้ารอความช่วยเหลือ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ จ.หนองคาย เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 2 เมตร ทำสถิติสูงสุดในรอบปี
น้ำโขงเพิ่มสูงที่หนองคาย วันเดียวเกือบ 2 เมตร
วันนี้ (24 ก.ค.61) ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่าน จ.หนองคาย ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วเป็นวันที่ 3 ล่าสุด ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ วัดได้ที่ระดับ 10.24 ม. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของเมื่อวานนี้ถึง 1.94 เซนติเมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 1.96 เมตร พรุ่งนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากน้ำทางตอนเหนือ คือ ที่สถานีเชียงคาน จ.เลย วันนี้ยังเพิ่มขึ้น 15 เซนติเมตร ซึ่งระดับน้ำโขงวันนี้เป็นสถิติสูงสุดในรอบปี และได้เริ่มหนุนเข้าในลำห้วยสาขา ทำให้ลำห้วยสาขาที่มีประตูปิด-เปิดน้ำต้องปิดประตูทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำโขงหนุนเข้าไปท่วมพื้นที่การเกษตรทางตอนใน นอกจากนี้ ยังได้ส่งผลต่อการสัญจรทางเรือในแม่น้ำโขง ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น รวมทั้งโป๊ะแพต่าง ๆ ต้องตรวจสอบและเสริมความมั่นคงแข็งแรงต่อไป
นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการ จ.หนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสถานการณ์น้ำโขงและตรวจการปิดประตูระบายน้ำทั้ง 3 ประตูของโครงการห้วยหลวง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำในแม่น้ำโขงไหลเข้าในลำห้วยหลวงไปท่วมพื้นที่ทางการเกษตรที่อยู่ติดลำห้วยฯ ทั้ง จ.หนองคาย และอุดรธานี กว่า 3 หมื่นไร่ พร้อมเตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 15 เครื่องไว้สูบน้ำในลำห้วยลงแม่น้ำโขง ทันที หากน้ำในลำห้วยสูงจากฝนที่อาจตกในพื้นที่ จ.หนองคาย และ จ.อุดรธานี จนน้ำในลำห้วยมีระดับสูง
น้ำโขงมุกดาหารเพิ่มเล็กน้อย-เร่งซ่อมตลิ่งทรุด
ที่ จ.มุกดาหาร ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (24 ก.ค.) เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงวัดที่ส่วนอุทกวิทยาที่ 3 มุกดาหาร ล่าสุดมีระดับอยู่ที่ 9.92 เมตร เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งต่ำกว่าตลิ่ง 2.58 เมตร คาดว่าในวันพรุ่งนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากระดับน้ำทางตอนเหนือได้ไหลลงมา มีระดับที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้เกาะกลางน้ำโขงที่มีชาว สปป.ลาว เข้าไปอาศัยบนเกาะ น้ำท่วมเกือบมิดหลังคา
ส่วนทางด้าน ดร.ไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ ผู้ว่าราชการ จ.มุกดาหาร พร้อมด้วยโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจการและให้กำลังใจผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาตลิ่งพัง บริเวณด้านหลังวัดศรีมงคลเหนือ หลังได้รับผลกระทบจากปัญหาตลิ่งพังและพื้นที่ทรุดตัว เนื่องจากน้ำกัดเซาะจากลำห้วยมุก ริมแม่น้ำโขง ซึ่งเจ้าหน้าที่แก้ไขโดยการนำไม้และแท่งเหล็กทำเป็นเสาเข็มป้องกันตลิ่งทรุดเพิ่ม ก่อนจะดำเนินการแก้ไขโดยสมบูรณ์ตามหลักวิศวกรรมในขั้นตอนต่อไป
เร่งอพยพชาวลาวหลังเขื่อนแตกมวลน้ำทะลัก
ข้ามฝั่งโขงไปที่ สปป.ลาว เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ค.61) สำนักข่าว ABC Laos News เผยให้เห็นภาพน้ำท่วมในพื้นที่เมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ ทางตอนใต้ของ สปป.ลาว หลังจากมวลน้ำกว่า 5 พันล้านตันจากเขื่อนปิดช่องเขา หรือสันเขื่อน D ของเขื่อนเซเปี่ยน – เซน้ำน้อย ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่มเมื่อวานนี้ (23 ก.ค. 61) ล่าสุด เจ้าแขวงอัตตะปือ ได้นำทีมลงช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากไม่ทันได้เตรียมการ บางคนติดค้างอยู่บนหลังคาบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งอพยพผู้ประสบภัยโดยใช้เรือนำออกมาจากหมู่บ้าน และส่งไปพักในที่พักฉุกเฉินต่อไป
ชาวเมียนมาร่วมบริจาคช่วยภัยน้ำท่วมเมียวดี
ส่วนทางจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ยังคงเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ตามสถานที่ราชการ โรงเรียน และวัด ทั้งหมด 11 จุด จากจำนวนมาผู้ประสบภัยน้ำท่วม กว่า 2,000 คน ทั้งนี้ หลังจากที่มีน้ำในแม่น้ำเมย กับ ลำห้วยแม่แปบ หนุนขึ้น ทำให้ชาวเมียวดีที่อาศัยบนที่ราบลุ่มหลายหมู่บ้าน ต้องหนีภัยน้ำท่วม ขณะที่พ่อค้า นักธุรกิจ และหน่วยงานต่าง ๆ นำสิ่งของไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งทางการเมียนมาได้ทยอยให้เริ่มกลับไปบ้างแล้ว หลังจากที่บางพื้นที่น้ำลดลง แต่ยังคงเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไว้ตามปกติ เนื่องจากผู้ประสบภัยน้ำท่วมยังไม่สามารถกลับไปได้อีกประมาณ 800 – 900 คน และยังต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมต่อไป เพราะยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
สั่งปิด “น้ำตกทีลอซู” ฝนถล่มน้ำป่าทะลัก
ปิดท้ายกันด้วย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 จ.ตาก ได้มีคำสั่งไปยัง นายกุศล สุวรรณาภรณ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก ให้ปิดบริการแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีความเสี่ยงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางทั้งหมด เช่น น้ำตกทีลอซู และการล่องแพชมธรรมชาติตามลำน้ำกลอง รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่มีความเสี่ยง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ประเมินสถานการณ์ ในชวงนี้มีฝนตกหนัก เกิดน้ำป่าไหลหลาก ทำให้น้ำตามลำห้วย และน้ำตก มีปริมาณน้ำมาก จนน่าจะเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว จึงมีคำสั่งให้ปิดการบริการเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ปิดเส้นทางรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าจนถึงเดือน ต.ค. แต่อนุญาตให้ล่องแยางหรือเดินเท้าเข้าไปได้ จนมีคำสั่งให้ปิดน้ำตก เนื่องจากผู้บริหารกลัวว่าอาจจะซ้ำรอยเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย นั่นเอง