ระทึก! น้ำป่าเชี่ยวกรากซัดรถบัสเช่าเหมาลำตกข้างทาง ที่อ.สิชล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
นี่คือภาพเหตุการณ์ในขณะที่กำลังทหารจากค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล นำกำลังพลที่เชี่ยวชาญเช้าให้การช่วยเหลือผู้โดยสารที่ติดอยู่ในรถบัสขนาดใหญ่ เบื้องต้นทราบว่าเป็นรถบัสนครศรีธรรมราช-สุรษฎร์ธานี ถูกน้ำป่าซัดจนตกจากถนนติดอยู่ในกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากบริเวณหน้าสถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง ภาคใต้ ต.ทุ่งใส อ.สิชล และมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถทัวร์ ซึ่งทหารกำลังเข้าให้การช่วยเหลือลำเลียงผู้ติดอยู่ภายในออกนำส่งโรงพยาบาล ได้ปลอดภัยทั้งหมด 50 ราย และทราบว่า มีผู้สูญหาย 2 คน ทราบชื่อ คือ นางจันทร์ คำแก้ว อายุ68 ปี และ น.ส.มณี คำแก้ว อายุ 63 ปี ทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน และเป็นชาว อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะที่เมื่อช่วงเช้านี้ระดับน้ำได้ลดลงแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ออกค้นหาร่างผู้สูญหายต่อ จนที่สุด พบร่างทั้ง2 ถูกน้ำซัดไปไกลกว่า 1 กิโลเมตร ติดอยู่ในต้นปาล์ม
จากการสอบถาม นายวีระพันธ์ สุขขะวัลลิ ปลัดอาวุโสอำเภอสิชล เปิดเผยว่า รถทัวร์คันนี้ ได้มีการจ้างเหมาเดินทางมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้วมาร่วมงานศพในอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากที่เดินทางกลับปรากฎว่าได้ถูกน้ำป่าซัดจนตกถนนและเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือท่ามกลางกระแสน้ำ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรระหว่างถนนสาย 401 นครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี เนื่องจากน้ำท่วมสูงรถไม่สามารถใช้เส้นทางได้ จนกว่าระดับน้ำจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ
ล่าสุดจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เชิงเขาใกล้ธารน้ำลำคลอง โดยเฉพาะในอำเภอขนอม สิชล นบพิตำ ท่าศาลา ลานสกา พรหมคดีรี ร่อนพิบูลย์ ช้างกลาง ฉวาง พิปูน ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ว่าทุกพื้นที่อาจมีน้ำป่าหลากควรระมัดระวังและอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงด้วย ในขณะที่เขตเทศบาลได้เตรียมการรับมือมวลน้ำเป็นครั้งที่ 2 แล้ว
น้ำป่าทะลักท่วมหอพักนักศึกษา ม.ราชภัฎนครศรีธรรมราช
สภาพหอพักนักศึกษาบริเวณ หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ถูกน้ำท่วมขังสูงถึงหน้าต่าง จมเสียหายเป็นจำนวน ซึ่งมวลน้ำป่าจากเทือกเขาหลวงต้นน้ำคีรีวงได้ไหลบ่าเข่าท่วมตั้งเมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งไหลบ่ามาอย่างรวดเร็วจนนักศีกษา และชาวบ้านในพื้นที่ไม่สามารถขนย้ายสิ่งของได้ทันทำให้ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย มหาวิทยาลัยราชภัฎต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนทันที
ขณะที่เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างนครศรีธรรมราชกับอำเภอลานสกา ถูกตัดขาดเนื่องจากบางจุดซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มมวลน้ำป่าได้ไหลทะลักเข้าท่วมสูง ทำให้การสัญจรติดขัดเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ใช้รถใช้ถนน ต้องรอลุ้นให้ระดับน้ำลดลงซึ่งเป็นไปอย่างเชื่องช้า ขณะที่โรงเรียนในพื้นที่ลายสกาจำนวนมากประกาศหยุดการเรียนการสอนเนื่องจากหวั่นในเรื่องความปลอดภัย เพราะยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง