จากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้กรุงเทพมหานคร มีการสร้างอาคารสูง ๆ ขึ้นมากมาย โดยเฉพาะตึกใบหยก ซึ่งเป็นอาคารที่มีการสร้างมานานหลายสิบปี จึงทำให้หน่วยงานราชการ ต้องเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารดังกล่าว ว่ามีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด ติดตามเรื่องนี้จาก คุณปิยมาส วงศ์พลาดิสัย ผู้สื่อข่าวไบรท์นิวส์
ในช่วงเช้าของวันนี้ (22 มิ.ย.60) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยที่อาคารใบหยก1 ซึ่งเป็น 1 ในอาคารสูงของกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ให้เกิดความอันตรายแก่ผู้ใช้อาคาร
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง พร้อมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารสูง ณ อาคารใบหยกสกาย 1 ซึ่งอาคารดังกล่าวเป็นทั้งโรงแรมและศูนย์การค้า ที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยผู้ว่าฯ กทม. เดินตรวจในพื้นที่โรงแรม พื้นที่ศูนย์การค้า พร้อมตรวจเยี่ยมผู้ค้าภายในอาคารใบหยก1 ทั้งหมด 3 พื้นที่เป็นหลัก ได้แก่ บริเวณห้องควบคุมความปลอดภัยของอาคาร ห้องเก็บอุปกรณ์ความปลอดภัยกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ และบริเวณบันไดหนีไฟ รวมทั้งตรวจความสะดวกการเข้าถึงอาคารของรถดับเพลิง กู้ภัย และรถพยาบาล ของพื้นที่โดยรอบอาคาร โดยพลตำรวจเอกอัศวินให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับการตรวจสอบอาคารในครั้งนี้ว่า การดำเนินงานตรวจสอบไม่ได้ทำที่อาคารใบหยกเท่านั้น แต่มีการตรวจสอบอาคารสูงทั่วกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร มีทั้งหมด 2,810 อาคาร ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานเขตได้สั่งการให้สำนักการโยธา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้ดำเนินการตรวจสอบอาคารและระบบป้องกันอัคคีภัยให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมให้คำแนะนำการปรับปรุงอาคารที่มีการสร้างใหม่หรือต่อเติม และหากตรวจสอบพบว่าอาคารใดไม่ได้ดำเนินการดูแลความปลอดภัยตามกฎหมาย จะสามารถสั่งปิดการให้บริการอาคารนั้น ๆ ได้
สำหรับอาคารใบหยก 1 เริ่มสร้างในปี 2527 จนถึงตอนนี้มีอายุกว่า 33 ปีแล้ว ซึ่งอาคารสร้างขึ้นก่อนที่จะมีพระราชบัญญัติควบคุมอาคารปี 2535 แต่ได้มีการควบคุมและดูแลความปลอดภัยของอาคารตามกฎหมายเรื่อยมา โดยได้ยื่นรายงานการตรวจสอบอาคารทุกปี