ที่พัทลุง : ชาวบ้านพบวัตถุระเบิดถูกนำมาผูกติดไว้กับพวงมาลัยเปิด–ปิด ประตูระบายน้ำ บริเวณแหล่งน้ำแม่ห้วย คาดว่าเป็นการแย่งน้ำเพื่อทำการเกษตร
พ.ต.อ.พินิจ ฤทธิเดช ผกก.สภ.นาขยาด พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งว่าพบระเบิดไม่ทราบชนิด บริเวณแหล่งน้ำแม่ห้วย ม. 4 บ้านเขาป้าเจ้ ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบวัตถุระเบิดจำนวน 1 ลูก ถูกนำมาผูกติดกับพวงมาลัยเปิด-ปิดประตูระบายน้ำในคลองดังกล่าว แต่ระเบิดยังไม่ทำงาน จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) กองกำกับการสอบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เพื่อทำการเก็บกู้และทำลาย
หลังการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ทราบว่าเป็นลูกระเบิดชนิดเอ็ม 26 แบบขว้างสังหาร จำนวน 1 ลูก ถูกนำมาผูกด้วยลวดติดกับพวงมาลัย สำหรับหมุนเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ โดยวัตถุระเบิดดังกล่าวอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งหากมีการถอดสลักระเบิดจะทำงานทันที ทั้งนี้ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาเก็บลายนิ้วมือที่วัตถุระเบิด และสภาพแวดล้อมอื่นๆ เพื่อนำไปเปรียบเทียบและติดตามตัวเจ้าของระบิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้นำวัตถุระเบิดไปทำลายอย่างเร่งด่วน เนื่องจากวัตถุระเบิดดังกล่าวมีสภาพเก่า สนิมจับบริเวณสลัก เกรงว่าจะเกิดระบิดขึ้นมาได้
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเบื้องต้นตั้งสาเหตุการวงระเบิดในครั้งนี้ไว้ 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรกมาจากเกิดการแย่งน้ำกันระหว่างหมู่บ้าน เนื่องจากแหล่งน้ำดังกล่าว เป็นแหล่งน้ำที่หล่อเลี้ยงเกษตรกร จำนวน 3 หมู่บ้าน ใน ต.แพรกหา และเกษตรกรอีกบางส่วนในพื้นที่ ต.พนมวัง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ใช้น้ำทำการเกษตร และเป็นน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน หากมีการเปิดระบายน้ำบ่อยครั้งส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่เหนือแหล่งน้ำ ไม่มีน้ำใช้ในการทำเกษตร หากไม่มีการระบายน้ำชาวบ้านที่อยู่ด้านล่างก็จะไม่มีน้ำใช้เช่นกัน ที่ผ่านมาจึงมีการแอบมาเปิดตอนกลางคืน จนกระทั่งมีการวางระเบิดดังกล่าว
ส่วนอีกประเด็นน่าจะมาจากมีการเปิดประตูระบายน้ำเพื่อจับปลา เพราะแหล่งน้ำแม่ห้วย เป็นสถานที่ที่ชาวบ้านจะนำปลามาปล่อยอยู่เป็นประจำ จนเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์ปลา และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของหมู่บ้านอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาขยาด จะเร่งติดตามจับกุมตัวเจ้าของวัตถุระเบิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป