อุทาหรณ์! ในช่วงวันหยุดยาวที่ประชาชนต่างใช้รถใช้ถนนเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ แต่แม่ค้าลอตเตอรี่สาวดีกรีเพิ่งจบ ป.ตรี ใน จ.เลย เพิ่งขับรถได้ไม่นานไม่พอ ยังไม่มีใบขับขี่แล้วเธอเพิ่งกลับจากงานเลี้ยงสังสรรค์จนแฮงค์ ขับรถเพื่อไปรับเพื่อนแต่ไปชนฟุตปาธและพนักงานร้านแห่งหนึ่งที่กำลังกวาดถนนจนร่างลอยกระแทกพื้นบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์นี้กล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้
ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านเมืองเลยอาณาจักรยนต์ ถนนร่วมใจ ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย บันทึกเหตุการณ์แม่ค้าสาวลอตเตอรี่รายหนึ่ง เพิ่งหัดขับรถแล้วเมาสุรามา ขับรถเก๋งสีขาวเพื่อจะไปรับเพื่อน แต่พลาดท่าขับปีนฟุตปาธชนพนักงานของร้านที่กำลังกวาดถนนลอยกระเด็นได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา จนโซเชียลมีเดียก็แชร์กันในกลุ่มเพจและกลุ่มไลน์ของจังหวัดเลย
ส่วนความคืบหน้าทางคดี พ.ต.ต.มนัส วงค์โคกสูง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองเลย เจ้าของคดี กล่าวว่า ได้รับแจ้งมีเหตุรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีขาว ปีนฟุตปาธชนคนได้รับบาดเจ็บและจอดคาอยู่ขั้นบันได 3 ขั้นหน้าร้านเมืองเลยอาณาจักรยนต์ ตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บ คือ นายวรพิต การจำปี อายุ 37 ปี เพิ่งมาทำงานที่ร้านประมาณ 1 เดือน ได้รับบาดเจ็บบริเวณเอวและสะโพก นำส่ง รพ.เลย ล่าสุด อาการปลอดภัย และในวันนี้ (27 ก.ค.61) แพทย์อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว ส่วนคนขับรถเก๋ง คือ น.ส.ฐิดารัตน์ คือคุณ อายุ 23 ปี มีอาชีพขายลอตเตอรี่และเพิ่งเรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.เลย ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับการเป่าแอลกอฮอล์ เมื่อเจ้าหน้าที่ให้เป่าปรากฏว่ามีปริมาณสูงถึง 121 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่ากฎหมายที่กำหนด จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองเลย
น.ส.ฐิดารัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ตัวเองเพิ่งหัดขับรถได้ 2-3 ครั้ง คืนก่อนเกิดเหตุไปเที่ยวผับยามราตรีกับเพื่อน ๆ จนแยกย้ายกันกลับ เช้าวันต่อมาต้องไปรับเพื่อนห่างจากที่เกิดเหตุเล็กน้อยซึ่งยังมีปริมาณแอลกอออล์อยู่ในตัว ก็เลยขับรถเก๋งมาเรื่อย ๆ จนเลี้ยวซ้ายที่ 3 แยกไฟแดง ก็ชะลอรถเพื่อเหยียบเบรกแต่พลาดไปเหยียบคันเร่งแทน รถเก๋งจึงพุ่งปีนฟุตปาธและชนพนักงานร้านที่กำลังกวาดถนนจนร่างลอยกระเด็นกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บ ผู้เห็นเหตุการณ์ก็รีบนำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.เลย ส่วนตนเองยืนรอมอบตัวและพร้อมยินดีชดใช้ค่าเสียหายกับทางร้าน และค่ารักษาพยาบาลกับค่าเสียเวลางานแก่ผู้บาดเจ็บต่อไป ทั้งนี้ ตำรวจได้แจ้ง 4 ข้อหาหนักดำเนินคดีตามกฎหมาย คือ ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ, ขับรถทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย, ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และ ขับรถมีแอลกออล์เกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด