“เสี่ยตี๋” นักธุรกิจใหญ่จังหวัดอุดรธานี แจกอั่งเปาให้กับชาวบ้านและพนักงานติดต่อกันนานกว่า 30 ปี ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องมาอำนวยความสะดวก จัดแถวให้ประชาชนที่มารอรับอั่งเปาอย่างเป็นระเบียบ
ที่บ้าน “สำลีเงิน” เลขที่ 599 ถ.นิตโย เทศบาลนครอุดรธานี นายปรีชา ชัยรัตน์ หรือ เสี่ยตี๋ คหบดีจังหวัดอุดรธานีพร้อมคนในครอบครัว ได้เปิดบ้านพักแจกอั่งเปาตรุษจีนให้แก่ชาวบ้าน ผู้พิการ ผู้สูงอายุ เด็ก และชาวบ้านยากจน ที่มารอรับอั่งเปาตั้งแต่เช้ามืด
โดยก่อนที่เริ่มแจกอั่งเปา ได้ทำพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษตามประเพณีจีน จากนั้นได้นำกระเป๋าใส่อั่งเปาที่เตรียมไว้ซองละ 200 บาท ใส่ซองสีแดง รวมอั่งเปา 5 ล้านบาท และสำรองไว้อีก 3 ล้านบาท ออกมาแจกให้กับประชาชนที่มารอรับอั่งเปา ที่มีการจัดแถวเป็น 2 แถว ที่ทางเสี่ยตี๋และคนในครอบครัวผลัดกันมาแจก ขณะที่ทางโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ได้นำรถพยาบาลพร้อมเจ้าหน้าเตรียมไว้ หากมีเหตุฉุกเฉินขึ้น เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมาก เบียดเสียดเข้าคิวรอรับอั่งเปา
เสี่ยตี๋เปิดเผยว่า ตนแจกตั้งแต่คนงานโรงงานน้ำตาล คนเลี้ยงม้า ตำรวจ ทหาร คนจนที่มาเข้าแถวรอรับ จนกว่าจะหมดคนมาเข้าแถว แจกทั้งวัน เพราะวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปต่างจังหวัด แจกมานานจนจำไม่ได้ว่าแจกมานานแค่ไหนแล้ว ซึ่งตนถือคติว่า แจกไปเรื่อยๆ หากไม่ได้ทำให้ตัวเองเดือดร้อน นอกจากจะแจกอั่งเปาแล้ว ยังมอบสิ่งของให้คนพิการ รวมทั้งสร้างบ้านให้ครอบครัวคนพิการ 5 คน ที่เขียนจดหมายมาขอความช่วยเหลือ และได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบว่าพิการจริง จึงได้สร้างบ้านให้ได้มีที่อยู่อาศัย และให้เงินเดือน 10,000 บาท ไว้ใช้จ่ายพร้อมข้าวสาร ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จนกว่าจะตายจากกัน ส่วนคนเดือดร้อนหรือคนจนอื่น ที่เขียนจดหมายมาขอ พบว่าเดือดร้อนเพราะทำตัวเอง เช่นติดหนี้เงินนอกระบบ หรือติดหนี้การพนัน ถือว่าไม่เดือดร้อนจริงจะไม่ช่วย
ด้านนายไท่ หนุนทรัพย์ อายุ 67 ปี ผู้พิการ ที่มาเข้าแถวรอรับแจกอั่งเปา เล่าว่า ตนมีอาชีพรับจ้าง เมื่อ 30 ปีก่อน ได้ประสบอุบัติเหตุรถชน ที่ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ทำให้ขาขวาพิการเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น ทราบว่า “เสี่ยตี๋” แจกอั่งเปาคนจนในวันตรุษจีน ตนเดินทางมารับอั่งเปา 3 ปีแล้ว เงิน 200 บาท ตนจะนำไปไว้บนหิ้งพระ พร้อมกับสวดมนต์ อธิษฐานให้ “เสี่ยตี๋”และครอบครัว ให้พระคุ้มครอง ให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว ประมาณ 3-4 เดือน จึงจะนำมามาใช้จ่ายในสิ่งจำเป็น
เสี่ยตี๋ยังกล่าวอีกว่า เศรษฐกิจอุดรธานีปีนี้ไม่ค่อยดี ดูได้จากมีพ่อค้า แม่ค้า นำสินค้ามาวางขายที่หน้าตลาดสด แต่คนจับจ่ายใช้สอยมีน้อย การค้าขายกับชาวลาวก็ไม่ค่อยดี แต่ตนก็ได้วางมือจากธุรกิจให้ลูกทั้ง 5 คน ดูแลแล้ว ทั้งโรงงานน้ำตาล โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทุกคนสามารถสานต่อธุรกิจได้แล้ว ส่วนตนและภริยา ก็ใช้ชีวิตในสิ่งที่ชอบ พร้อมกับทำบุญ แบ่งปันให้กับคนยากจน