ความคืบหน้าการคุมตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ผู้ต้องหาคดีฆ่า น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย และ นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส เสียชีวิตคาลานจอดรถวัดเขาสลักชีจรรย์ จ.ชลบุรี หลังจากหลบหนีไปกว่า 17 วัน เสี่ยอ้วน ถูกลอคตัวโดยเจ้าหน้าที่กัมพูชา เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา และ ทางการกัมพูชาใช้เวลาอีก 5 วัน เร่งผลักดันตัวเสี่ยออกออกจากประเทศ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรงในประเทศไทย แต่กลับหลบหนีลักลอบเข้าประเทศกัมพูชา ซึ่งถือว่า เป็นความผิดด้านความมั่นคงของประเทศดังกล่าว
กระทั่งบ่ายวันที่ 21 ส.ค. ทางการกัมพูชามีคำสั่ง”เนรเทศ” เสี่ยอ้วน ออกจากประเทศ ทันที่คำสั่งประกาศ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา ประจำกรุงพนมเปญ นำตัวเสี่ยอ้วน ออกจากที่คุมขังพาขึ้นรถเดินทางจากกรุงพนมเปญ มุ่งหน้าไปยัง ด่าน ตม.ปอยเปต เพื่อนำตัวกลับข้ามฝั่งไทยให้ทันเวลา 21.00 น. ซึ่งเป็นกำหนดการปิดด่านชายแดนตามปกติ
สำหรับกรุงพนมเปญ เมืองหลวงกัมพูชา มีระยะทางประมาณ 480 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 45 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร สมรรถนะรถยนต์ ตลอดจนสภาพอากาศ ซึ่งมีการคาดกันว่า เสี่ยอ้วน จะมาถึงฝั่งชายแดนประมาณ 18.30 – 19.00 น. หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ไทยจะเข้ารับตัวข้ามกลับมายังฝั่ง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ ตามกำหนดการ ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. แจ้งสื่อมวลชนว่า เตรียมแถลงผลจับกุมเสี่ยอ้วน ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 21 ส.ค. หากแต่เมื่อประเมินจากการเดินทางของเสี่ยอ้วน จึงเชื่อว่า การแถลงข่าวต้องเลื่อนออกไปอีก 1 วัน สอดคล้องกับข้อมูลจาก กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ระบุว่า
เวลา 11.00 น. 22 ส.ค.2561 ชุดสืบสวนสอบสวนและจับกุมโดย จตช. จะนำตัวผู้ต้องหาคดีสำคัญมาสอบปากคำ นำโดยท่าน ผบ.ตร. ณ ห้องกระจก ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.
เช่นเดียวกับ ความเคลื่อนไหวที่ จ.ชลบุรี มีรายงาน พ.ต.อ.อาทร ชิ้นมาก ผกก.สภ.นาจอมเทียน ได้นำรถของกลาง 6 คัน พร้อมของกลางอาวุธปืนและอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการก่อเหตุ รวมกว่า 10 รายการ เคลื่อนย้ายจากที่เก็บของกลาง บก.ภ.จว.ชลบุรี ไปยัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเตรียมแถลงผลจับกุมตัว”เสี่ยอ้วน” และ เตรียมเปิดข้อมูลสอบสวนเชิงลึกถึงสาเหตุที่แท้จริงในการฆ่า น้องสปายและน้องฟอส ในวันที่ 22 ส.ค. นี้
ส่วนที่ จ.สระแก้ว ตำรวจ ตม.สระแก้ว , เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร , ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ และ ตำรวจ ตม.ด่านปอยเปต กัมพูชา สนธิกำลังร่วมกันไม่ต่ำกว่า 150 นาย เตรียมรอรับตัวเสี่ยอ้วน นอกจากนี้ ยังเตรียมนักจิตวิทยาบำบัด เข้าดูแลสภาพจิตใจของเสี่ยอ้วน หลังได้รับแจ้งจากทางการกัมพูชาว่า”เสี่ยอ้วน” มีภาวะเครียดอย่างหนัก หวั่นโรคซึมเศร้ารุนแรงและเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายหนีความผิด
ส่วนที่ จ.สุรินทร์ มีรายงานว่า นางคิด ยิ่งดัง มารดาของเสี่ยอ้วน เดินทางมาพร้อมพี่ชายของเสี่ยปืนโหด ไปยัง สภ.นาจอมเทียน เพื่อรอพบลูกชายที่หลบหนีออกนอกประเทศไปกว่า 20 วัน ขณะที่กระแสข่าวอีกแห่ง ระบุว่า นางคิด เดินทางไปยัง จ.สระแก้ว ก่อนเปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้าเข้า กทม. และ เดินทางต่อไปย่านรังสิต จ.ปทุมธานี แต่ยังคงหมายกำหนดพบหน้า”ลูกชาย” ก่อนรับโทษในคดี ฆ่าและบงการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ส่วนขั้นตอนเมื่อเสี่ยอ้วน มาถึงด่านปอยเปต เจ้าหน้าที่ทางการไทยจะเข้ารับตัว และ นำตัวจากด่านปอยเปต ไปยัง กองกำกับการ 12 ตำรวจตระเวนชายแดน จ.สระแก้ว หลังจากนั้น อาจนำตัวไปควบคุมชั่วคราวที่ สภ.คลองลึก เป็นเวลา 1 คืน กระทั่ง เช้าวันที่ 22 ส.ค. จะนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์กองบินตำรวจ สตช. เดินทางจาก จ.สระแก้ว เข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อส่งตัวกลับมายัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วงเวลาประมาณ 10.00 – 10.30 น. กระทั่งแถลงผลจับกุมเป็นทางการ 11.00 น. เป็นต้นไป ปิดภารกิจตามล่าเสี่ยอ้วนที่ใช้เวลากว่า 20 วัน
