กรณีสาว อายุ 18 ปี ถูกคนพี่ชายต่างบิดา บุกเข้ามาห้อง มัดมือ เท้า เอากาวหยอดตา ก่อนพยายามล่วงละเมิดทางเพศ แต่ไม่สำเร็จ ด้านแม่เปิดใจ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฏหมาย เพราะไม่อยากให้ไปก่อเหตุกับใครอีก ยืนยัน ไม่ได้ตัดแม่ตัดลูกแต่ต่างคนต่างอยู่
แม่ผู้เสียหาย และเป็นแม่ของผู้ต้องหา ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ ร.ต.อ.โรมรัน ศรีไกรภักดิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.หนองปรือ จังหวัดชลบุรี หลังลูกชายวัย29 ปี ก่อเหตุทำร้านน้องสาววัย18 ปี ซึ่งต่างบิดา ด้วยการบุกเข้ามาห้อง มัดมือ เท้า เอากาวหยอดตา ก่อนพยายามล่วงละเมิดทางเพศ แต่ไม่สำเร็จ
ซึ่งหญิงสาว 18 ปี ซึ่งเป็นผู้พี่ชายกระทำ เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเองได้นอนตอนเที่ยงและช่วงประมาณบ่ายๆรู้สึกเหมือนอะไรอุ่นๆมาโดนใบหน้า ก็จะลืมตาและลุกขึ้นแต่ลุกไม่ได้คนร้ายมานั่งค่อมที่ตัวของตน ก่อนเอาผ้าน่วมมาคลุมที่หัวตน ซึ่งคนร้ายนั้นพูดจาไม่รู้เรื่องพูดเป็นคำๆ และคล้ายคนงานก่อสร้างซึ่งตนเองไม่คิดว่าจะเป็นพี่ชาย จากนั้นคนร้ายถามหาเชือกตนเองบอกในบ้านไม่มีให้ไปเอาที่ห้องเก็บของ ตนเองเลยบอกว่าเอาสายชาร์จมัดแทนได้ไหมแต่อย่างทำร้ายตนเอง จะเอาทรัพย์สินเดียวตนเองพาไป
จากนั้นก็พาไปยังห้องนอนเขาก็เอาผ้าสายชาร์จร่วมทั้งสายเนื้อชั้นในมามัดตนเองเพิ่มอีก จากนั้นเขาได้จับหนูเข้าไปในห้องน้ำซึ่งอยู่ภายในห้องนอน ก่อนเอาสายเสื้อชั้นในมามัดที่ขา ก่อนเดินเข้าออกภายในห้อง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เข้ามาในห้องน้ำแล้วสั่งให้ตนเองยืนแต่ตนเองยืนไม่ได้เพราะถูกมัดขาอยู่ เขาก็แก้มัดให้ก่อนให้ตนเองนั่งลงกับพื้นแล้วพยายามจะถอดกางเกงของตนเองออก ตนเองตกใจจึงส่งเสียงร้องคนร้ายจึงตกใจ เขาจึงหยุดและหยิบมือถือแล้ววิ่งออกไป
แล้วรอจนไม่มีเสียงคนร้ายจึงแก้มัดตัวเองก่อนเดินออกมาแล้วพบกับพี่ชาย แล้วจึงได้เอามือถือของพี่ชายโทรฯหามารดา ซึ่งในตอนแรกคิดสงสัยว่าคนร้ายคือพี่ชายของตนเองเหมือนกัน เพราะเสื้อที่คนร้ายใส่เหมือนที่มาซื้อให้พี่ชาย
ขณะที่แม่ เปิดเผยว่า นึกไม่ถึงว่าคนร้ายที่ก่อเหตุกับลุกสาวตัวเอง จะกลายเป็นลูกชายของตัวเอง เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับตนเองที่บ้าน เพื่อมาทำงานก่อสร้างที่จังหวัดชลบุรี ได้ประมาณ2 อาทิตย์ ก็ไม่มีพฤติกรรมส่อในทางที่ไม่ดี แต่เคยมีคนบอกว่า ลูกชายมีพฤติกรรมแบบนี้แต่ตนเองไม่เห็นกับตาเลยไม่เชื่อ จนมาเกิดขึ้นกับตนเองก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนการดำเนินคดีนั้น ก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองปรือ ดำเนินตามกฎหมาย โดย ถูกตั้ง 3 ข้อหา คือ ชิงทรัพย์, กักขังหน่วงเหนี่ยว และเสพสารเสพติด เพราะไม่อยากให้ลูกชายไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก ส่วนความสัมพันธ์แม่ลูกไม่ได้ตัดขาด แต่ต่างคนต่างอยู่ เพราะเป็นบุคคลอันตรายของครอบครัว เคราะห์ดีที่ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกินเลยไปกว่านี้
นอกจากนี้แม่ ผู้เสียหาย ยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ ลูกชายถูกจับข้อหาเสพยา น้องสาวคนนี้ก็เป็นคนเซ็นรับรองในการประกันตัวออกมา ซึ่งพี่ชาย ยังบอกว่ากับน้องสาวว่า เป็นหนี้บุญคุณอยู่เลย
ส่วนด้านคดีทาง พ.ต.อ.ชิดเดชา เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เบื้องต้นส่งดำเนินดคีในข้อหาชิงทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว และเสพสารเสพติดประเภทที่1 กับคนร้ายรายนี้ ซึ่งคนร้ายก็รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยบอกว่า ทำลงไปเพราะเมายาบ้า แล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ เห็นน้องสาวจึงลงมือก่อเหตุ