หลังการจับกุมและนำตัวไปทำแผน นายชัยยุท คงเจริญ หรือ เอ็ม พ่อเลี้ยงที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและข่มขืนเด็กหญิงวัย 10 ขวบ จนบาดเจ็บสาหัสและยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จ.สุมทรสาคร วันนี้อาการของน้องดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร ฟื้นฟูสภาพจิตใจแล้ว ขณะที่แม่เด็กที่ป่วยด้วยโรคไต ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลโพธิ์ทอง อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ยังเป็นห่วงลูกสาวและอยากไปเยี่ยมลูกใจจะขาด พร้อม ย้ำ ไม่ให้อภัยเอ็มเด็ดขาด เพราะการกระทำชั่วผิดมนุษย์ ขอตำรวจดำเนินคดีสถานหนัก และอยากให้มากราบขอขมาตนเอง
แม่เด็ก 10 ขวบ เหยื่อนายเอ็ม พ่อเลี้ยง ที่ทำร้ายและข่มขืนลูกเลี้ยง วัย 10 ขวบ เปิดเผยว่า ตอนนี้รู้สึกแค้นและไม่ให้อภัยนายเอ็มเด็ดขาด จึงขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และตัวนายเอ็ม มาขอขมาตนเองที่โรงพยาบาล
แม่ยังเล่า อีกว่า ที่ผ่านมา นายเอ็มมักจะถูกมารดาของตนเองว่ากล่าวเป็นประจำในเรื่องที่ไม่ยอมทำงาน ทำให้นายเอ็มโกรธเคือง แต่ก็ไม่น่าจะแค้นจนต้องมาลงกับลูกสาวตัวเองได้ถึงขนาดนี้ เพราะปกติน้องก็เคารพรักนายเอ็มเหมือนพ่อแท้ๆ ตลอดที่อยู่ด้วยกันมา 9 ปี และที่ช้ำใจคือ ที่ผ่านมา ตนเองและลูกสาวก็เจอเรื่องร้ายๆ มามากพอแล้ว ก่อนหน้านี้ลูกสาวก็ถูกลูกชายนายเอ็ม ล่วงละเมิดทสงเพศเช่นกัน แต่ไม่ได้มีการข่มขืน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก
ขณะที่อาการป่วยของตนเองก็เริ่มดีขึ้น สังเหตุได้จากมีสีหน้าที่สดใส หลังนายเอ็ม พ่อเลี้ยงถูกจับ และได้โทรศัพท์พูดคุยกับลูกสาว เบื้องต้นอาการดีขึ้นแล้วทราบว่าปลอดภัย และอยากเจอหน้าลูกสาวมากในขณะนี้
ส่วนความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ วันนี้ พันเอกศุภณัฐฎ์ หนูรุ่ง ยุติธรรมจังหวัดอ่างทองพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของ แม่เด็กหญิง 10 ขวบ โดยได้สอบถามถึงอาการและแจ้งสิทธิของผู้เสียหายในคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแกจำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 ที่ทางครอบครัวจะได้รับเพื่อเป็นการเยียวยา เบื้องต้นจะได้รับเงินตั้งแต่ 35,000-50,000 บาทและหากถูกทำร้ายร่างกาย ก็จะได้เพิ่มเป็นสองเท่า ซึ่งทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอ่างทองจะได้ประสานงานกับทางจังหวัดสมุทรสาครถึงแนวทางในการช่วยเหลือ
ส่วนตัวเด็กหญิง 10 ขวบ ขณะนี้เด็กมีอาการยิ้มแย้ม แจ่มใสและพูดคุยได้ตามปกติ โดยบ่นอยากกลับบ้าน อยากไปหาเพื่อน แต่โชคดีที่เด็กได้ยายและป้ามาคอยอยู่เป็นเพื่อน จึงทำให้เด็กมีกำลังใจและฟื้นฟูสภาพจิตใจได้เร็วขึ้น ซึ่งพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร จะคงจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้นอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะออกมาอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสาคร
จากนั้นก็ต้องรอการประเมินผลทางครอบครัวว่า เด็กสามารถที่จะกลับไปอยู่ในความดูแลของยายได้หรือไม่ นอกจากนี้ ยังจะต้องให้นักจิตวิทยาและทีมสหวิชาชีพเข้าไปช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กอีกทางหนึ่งด้วย ตลอดจนก็ยังจะได้มีการประสานกับทางโรงเรียนในเรื่องของทุนการศึกษา และ พม.ของจังหวัดอ่างทอง เกี่ยวกับการดูแลสวัสดิการต่างๆ จากภาครัฐ ที่เด็กและครอบครัวยายที่ให้การดูแลพึงได้รับต่อไป
สำหรับความคืบหน้าทางคดี หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้นำตัวนายเอ็ม ผู้ต้องหา มาควบคุมตัวที่ สภ.ชะอำ เพื่อรวบรวมหลักฐาน สอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา 2ข้อหา คือ ครอบครองยาเสพติดประเภทที่1ยาบ้า จำนวน 10 เม็ดครึ่ง และ เสพยาเสพติด โดยมีโทษจำคุกระหว่าง1- 2 ปี จากนั้นจะส่งตัวกลับให้พื้นที่ สภ.กระทุ่งแบน ในคดีกระทำชำเราลูกเลี้ยง
พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผู้กำกับการ สภ.กระทุ่มแบน เปิดเผยว่า ได้ขออายัดตัวกลับมาดำเนินคดีตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ตามข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร, พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่ เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ในส่วนของนายสมหมาย หวาดด้วงดี คนขับรถแท็กซี่พลเมืองดีที่นำเด็กหญิงมาส่งโรงพยาบาลกระทุ่มแบน ในวันที่ถูกทำร้ายนั้น สภ.กระทุ่มแบน จะได้ขอใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบไว้เพื่อแสดงตนการเป็นพลเมืองดีให้ต่อไป
